คดียาเสพติด โดนกักขังแทนค่าปรับ พ้นโทษออกมาไม่กี่ชั่วโมง ก่อเหตุขโมยรถ สารภาพหน้าตายออกจากคุกไม่มีใครมารับ และยังได้ลักทรัพย์ตู้บริจาคภายในวัดอีก 3 ครั้ง
ความคืบหน้าคดีผู้พ้นโทษคดียาเสพติด กักขังแทนค่าปรับ เดินออกจากเรือนจำไม่กี่ชั่วโมง ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ล่าสุด วันนี้ (12 เม.ย.67) พ.ต.ท.สุบรรณ ทองแสน รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ขลุง นำกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุมตัวนายสาโรช อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ได้ภายในที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ขลุง จ.จันทบุรี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยนต์ ที่ขโมยมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน จ.จันทบุรี โดยเจ้าของรถแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 67
สำหรับคดีนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิด เทศบาลเมือง ตั้งแต่จุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง โดยกล้องวงจรปิดสามารถ บันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน จึงประสานได้ส่งภาพถ่ายไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียง เพื่อติดตามคนร้าย เป็นชาย 2 คน เดินออกมาจากเรือนจำจังหวัดจันทบุรี มาตามถนนท่าแฉลบ อ.เมืองจันทบุรี และกล้องอีกตัวสามารถบันทึกภาพขณะเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า แต่ต่ขากลับได้ขี่จักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อก พร้อมกระเป๋าแกร็ปมัดท้ายรถ ออกมาตรวจสอบข้อมูล จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ เป็นผู้พ้นโทษ คดีเสพยาเสพติด ที่ถูกกักขังแทนค่าปรับ และเพิ่งออกจากคุกมาไม่กี่ชั่วโมง และเชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยเข้าขโมยเงินในตู้รับบริจาค ที่วัดตะปอนใหญ่ เมื่อนายสาโรชขับรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมา กลับเข้ามาที่วัด ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุม
นายสาโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 ตนพร้อมเพื่อนที่พ้นโทษอีก 1 คน ไม่มีญาติมารับ ตั้งใจจะเดินเท้าเพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน ระหว่างทางได้พากันเดินเข้าไปล้างหน้าภายในห้าง และเห็นรถจักรยานยนต์ส่งของจอดออยู่ และมีกุญแจเสียบคาไว้ คนขับรถที่แต่งชุดแกร็ป นั่งรออาหารอยู่ จึงตัดสินใจขโมยรถ เพื่อไปส่งเพื่อน และขับรถไปหาลูกสาวที่ อ.แหลมสิงห์ ก่อนเดินทางกลับบ้านที่ ต.ตะปอน โดยไม่มีใครรู้ ว่าเพิ่งออกจากคุกและรถคันดังกล่าวเป๋ยรถที่ขโมยมา ส่วนกระเป๋าแกรปได้นำไปโยนทิ้งไปกลางทาง
นอกจากนี้ ยังรับสารภาพว่าขโมยเงินภายในวัดตะปอนใหญ่ 3 ครั้ง จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ในส่วนท้องที่ สภ.ขลุง พร้อมประสานไปยัง ชุดสืบ สภ.เมืองจันทบุรี มารับตัวไปดำเนินคดี
