ห้องข่าวภาคเที่ยง - เป็นธรรมเนียมกันมานานกับ หยิกแกมหยอก ฉายรัฐบาล และรัฐมนตรี จากผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล หลังตามติดการทำงานของคณะรัฐมนตรีร่วม 3 เดือน มาดูกันว่ารัฐมนตรีคนใดที่เข้าตากับฉายาเด็ดๆ รวมถึง วาทะแห่งปีที่หลายคนคงคุ้นเคยก่อนจะขึ้นปีใหม่ 2567
การตั้งฉายารัฐบาล และ รัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ที่สะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติที่ได้ ฉายารัฐบาล "แกงส้มผลักรวม" เมนูยอดนิยมประเภทหนึ่ง คือ ผลักรวม ที่ล้อมาจาก ผักรวม ส่วนแกง เป็นคำสแลงใช้แทน การแกล้ง ที่มองว่าพรรคก้าวไกลที่มีสีส้ม ถูกกลั่นแกล้งถูกฉีก MOU และผลักจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และข้ออ้างทางการเมือง ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง
และ 5 รัฐมนตรีที่เข้าตาได้ฉายา หนีไม่พ้นหัวหน้ารัฐบาลอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ ฉายา เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน" เมื่อรับตำแหน่ง เดินหน้าทำงานทันที หารายได้เข้าประเทศ เดินสายโรดโชว์ ชวนนักลงทุนเข้าประเทศ ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ แต่ทางการเมืองถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เป็นเงาของคนในตระกูล "ชินวัตร" เพราะเคยหลุดปากขณะออกงานพร้อม นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ว่า "นายกฯ คนไหน มีนายกฯ 2 คน" อีกทั้งหลายนโยบาย ก็ถูกวิจารณ์ว่า ต่อยอดมาจากนโยบายนายทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับฉายา รองกอง ที่ได้รับความไว้ใจจากนายกรัฐมนตรีดูแลทุกอย่าง เมื่อต้องออกไปเดินสายขายของในต่างประเทศ ทั้งการจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงจะงานหลักในกระทรวง ปัญหาของแพง ราคาอ้อย น้ำตาล อีรุงตุงนัง กองสุมอยู่รอบตัว เหมือนลองกอง ผลดก พวงยาว กิ่งใหญ่
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับฉายา พลิกทินสู่ดาว จากพลเมืองเต็มขั้น เคยรับเงินเดือนครู ชอบดนตรีหมอลำ ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพ นอกจากนามสกุล "คลังแสง" แต่ด้วยบุคลิกสุภาพ ใจเย็น มืออ่อน และ ลีลาร้องรำน่าเอ็นดู จึงเข้าได้กับทหารทุกกรมกอง พลิกชีวิตลูกอีสาน สู่ดาวเจิดจรัสเฉิดฉาย ท่ามกลางเหล่าทัพได้อย่างแนบเนียน
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฉายา ทวี สอดไส้ ไม่โดดเด่นในการบริหารราชการช่วง 3 เดือนแรก แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับมารับโทษ ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว
รัฐมนตรีคนสุดท้าย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วยฉายา มาเฟียละเหี่ยใจ จากประวัติโลดโผน ถูกประทับตรามาเฟีย ถูกยกสถานะให้เป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ได้รับมอบปราบปราม "ผู้มีอิทธิพล" ยังไม่ทันได้สร้างผลงาน "ลูกเขย" ถูกจับข้อหาเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล เปิดแถลงข่าวภายใน 24 ชั่วโมง สั่ง "ลูกเขย" ยื่นใบลาออกทันที ไม่ต้องรอสอบสวน ลั่นเป็นลูกเขยชาดา สปิริตต้องมากกว่าคนอื่น
วาทะแห่งปี "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" ของนายเศรษฐา ที่บอกขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ทำงานยังไม่ถึง 4 เดือน กลับขอลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 4 วัน จนชาวโซเชียลอดแซวไม่ได้
