ร้องสภาทนายฯ ช่วยเหยื่อโดนหลอกลงทุนธุรกิจผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หลังตกขบวนขอเฉลี่ยทรัพย์คืน

View icon 183
วันที่ 6 ธ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้เสียหาย 400 คน ร้องสภาทนายฯ ช่วยตกขบวนขอเฉลี่ยทรัพย์คืน คดีโดนหลอกลงทุนธุรกิจผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ด้าน วิเชียร เผยมี 2 แนวทาง ได้เงินคืน

วันนี้ (6 ธ.ค.66) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความฯ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษกสภาทนายความ ร่วมกันเเถลงข่าว กรณีที่นางอภันตรี เจริญศักดิ์ และตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายหลายร้อยคน ยื่นร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกบริษัทเอกชน 2 แห่งโฆษณาชักชวนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยใช้บุคคลมีชื่อเสียงทำให้หลงเชื่อร่วมลงทุนธุรกิจผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยจะจ่ายเงินปันผลร้อยละ 5 ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 50 สัปดาห์ ต่อมาวันที่ 6 พ.ค.63 บริษัทปิดทุกระบบ ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความ ซึ่ง ปปง. ได้ยึดอายัดทรัพย์ 500 ล้านบาทไว้ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน

จากนั้นพนักงานอัยการ สำนักอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องบริษัทดังกล่าวกับพวกต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.94/2564 คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.56/2566 คดีหมายเลขดำที่ ฟ.100/2565 และคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.57/2566 ศาลได้พิพากษาตัดสินว่าเงินที่บริษัทดังกล่าวได้มามิชอบ จึงให้ผู้เสียหายที่ยื่นขอเฉลี่ยทรัพย์ 81 ล้านบาทให้แก่ 299 คน ที่ยื่นคำร้องทัน

นายวิเชียร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายบางส่วนไม่ได้ยื่นคำร้องในส่วนที่ศาลแพ่งมีคำสั่งไปแล้ว ในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะต้องไปยื่น จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆ  ทางกระทรวงยุติธรรม เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะและมีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงส่งเรื่องมายังสภาทนายความ ตนจึงเชิญผู้เสียหายมาให้ข้อมูลกับสภาทนายความ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ในส่วนของคดีอาญาทราบว่าอยู่ในขั้นตอนอัยการสั่งพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม

ทั้งนี้ คดีแพ่งที่อัยการยื่นคำร้องอายัดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ที่ศาลมีคำสั่งไปเเล้ว จะถือว่าสิ้นสิทธิ์ในการขอรับเงิน แต่เบื้องต้นยังมีช่องทางช่วยเหลือผู้เสียหายอยู่ 2 ช่องทาง คือ 1. ในคดีอาญาเมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้อง คดีฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายจะสามารถที่จะยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม และยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน และ 2. ทราบในเบื้องต้นว่าตอนนี้น่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม และน่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการที่ ปปง.อาจจะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้อง ขอให้มีการอายัดเงินนี้คือเราดำเนินการตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการฟอกเงิน

เมื่อถามว่า ในส่วนคดีอาญาทางสภาทนายจะช่วยเหลือหรือไม่ นายวีเชียร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายต้องการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการหรือไม่ ถ้าต้องการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมหรือขอยื่นคำร้องให้จำเลยในคดีดังกล่าวชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนก็สามารถที่จะทำได้ ตรงนั้นก็ต้องหารือกัน หาข้อสรุปกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเรารับเป็นคดีช่วยเหลือแล้วก็เป็นหน้าที่ของทางสภาทนายในการที่จะจัดหาทนายเข้าไปช่วยเหลือทางคดีในชั้นศาลต่อไป