สภาทนายความ ช่วยเหลือทางคดี 14 เหยื่อ แอม ไซยาไนด์

View icon 36
วันที่ 10 พ.ค. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - สภาทนายความ จัดทนายสู้คดีเหยื่อของ แอม ไซยาไนด์ หลังเหยื่อเข้าพบขอความช่วยเหลือ ยืนยันอาการป่วยทางจิต ส่วนกรณีแอมตั้งครรภ์ไม่ส่งผลต่อการดำเนินคดี พร้อมเตือนทนายความของแอม ให้รักษามารยาท ปมให้สัมภาษณ์ไปหัวเราะไป

นางวันเพ็ญ ยายของนายแด้ สุทธิศักดิ์ สามีของแอมที่เสียชีวิตที่จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยหลังจากเมื่อวานนี้มาเข้าพบกับทางสภาสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกับญาติของเหยื่อ แอม ไซยาไนด์ อีก 5 ครอบครัว

นางวันเพ็ญ ระบุว่า ต้องการจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับหลาน ยอมรับว่าตอนเกิดเรื่องใหม่ ไม่ได้พิสูจน์ให้แน่ชัด แต่ตนเองก็รู้สึกเอะใจตั้งแต่ที่แด้เสียชีวิตแล้ว เพราะมีคนทักว่าหลานถูกยาเบื่อหรือไม่ และทุกคนก็ต่างพูดว่าแอมเป็นคนทำ อีกทั้งยังพยายามบอกให้ไปผ่าพิสูจน์ แต่ตนเองไม่มีทั้งกำลังและทุนทรัพย์ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง จึงบอกว่าให้แล้วก็แล้วกันไป ส่วนความเป็นไปได้ที่ลูกในท้องของแอมจะเป็นลูกของแด้ตนเองคิดว่ามีเพียงแค่ 20% ที่เหลืออีก 80% คิดว่าไม่น่าจะใช่ พร้อมย้ำอีกว่าอยากให้แอมรับโทษตามที่เขาได้ทำความผิดไว้ หากประหารชีวิตไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ติดคุกตามจริง ไม่มีลดหย่อนผ่อนโทษ

ส่วนอีกคน คือสามีของนางสาวนิตยา หรือ นิด วิศวกร 1 ในเหยื่อของ แอม ไซยาไนด์ ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนแรกไม่มั่นใจว่าแอมจะได้รับโทษสูงสุดหรือไม่ แต่พอได้พูดคุยกับทางสภาทนายความฯ ก็มั่นใจมากขึ้นว่าแอมจะได้รับความผิดตามที่ก่อไว้ ส่วนสภาพจิตใจครอบครัวด้วยเวลาผ่านมานานหลายปีแล้วก็ได้ช่วยเยียวยาความเสียใจจากการสูญเสียไปบ้าง ยอมรับว่าตอนแรกที่ภรรยาเสียชีวิตก็เอะใจ ตอนที่รู้ข่าวว่าภรรยาอาจตกเป็นเหยื่อของแอมก็ตกใจมาก มาถึงวันนี้แล้ว ก็คาดหวังว่าอยากให้แอมได้ชดใช้กรรมกับสิ่งที่ทำลงไป

ซึ่งทาง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสมาคมทนายความ ยืนยันว่าทางสภาทนายความฯ ยินดีจะช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อทุกราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เบื้องต้นได้ตั้งคณะทำงานศึกษาให้ความช่วยเหลือแล้ว อยู่ระหว่างหารือว่าต้องใช้ทนายความกี่คนในแต่ละคดี ส่วนอุปสรรคที่เหตุของเหยื่อบางรายเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และไม่ได้ชันสูตรศพนั้น เรื่องนี้พนักงานสอบสวนต้องดูว่าเชื่อมโยงไปถึงผู้กระทำคนดังกล่าวหรือไม่ ส่วนการฟ้องร้องค่าเสียหายในคดีแพ่งของทางญาติเหยื่อ สามารถตั้งทนายเป็นตัวแทนร่วมกับอัยการฟ้องควบคู่ไปด้วยกันได้

เมื่อถามว่าอาการป่วยทางจิตจะมีผลต่อการดำเนินคดีหรือไม่ เรื่องนี้ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษก ก็ได้ออกมายืนยันว่าประวัติการรักษาไม่น่าจะมีผลต่อรูปคดี เพราะจะชี้ให้เห็นถึงพฤติการณ์ของแอมที่เตรียมการวางแผนลงมืออย่างเป็นขั้นตอนมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวดี จึงไม่มีข้อยกเว้น ส่วนเรื่องตั้งครรภ์ คาดว่ากว่าเรื่องคดีจะถึงที่สุดแอมก็คงคลอดลูกแล้ว

โดยสภาทนายความฯ เตือนไปยังทางทนายของแอมให้คำนึงถึงข้อบังคับว่าด้วยมรรยาทของทนายความด้วย หลังมีการให้สัมภาษณ์สื่อในรายการหนึ่ง หากพบว่ามีการฝ่าฝืนญาติเหยื่อสามารถเข้ามาร้องทุกข์ ซึ่งคณะกรรมการมรรยาทก็จะเข้าตรวจสอบมรรยาททางทนายความ ตลอดจนหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเป็นคดีมรรยาทได้

ล่าสุดวานนี้ ทาง พันตำรวจเอก สมมาตร จันทรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางแพ จังหวัดราชบุรี พร้อมชุดสืบสวนลงเก็บหลักฐานอีกครั้งที่บ้านพี่สาวแอม หลังทราบผลการตรวจจากอาจารย์อ๊อด ว่าพบไซยาไนด์ในแคปซูลสมุนไพรที่เก็บไปตรวจ ซึ่งพี่สาวแอมก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี พร้อมเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวและหากพบว่าแอมทำจริงก็อยากให้เขาได้รับโทษ เพราะสงสารเหยื่อ แต่ตนไม่รู้ว่าเขาทำจริงหรือเปล่า