เช้านี้ที่หมอชิต - คืบหน้าไปอีกขั้น สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ เศรษฐา นำทีม ครม. รวมถึงพรรคร่วมทั้งหมด ตบเท้าแสดงความเป็นปึกแผ่น แถลงมติ ครม. เห็นชอบหลักการโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเอกฉันท์
เศรษฐา ควงแกนนำพรรคร่วมฯ แถลงมติ ครม.รับประกันเงินดิจิทัลฯ
ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค และข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ใช้เวลาเพียง 1 นาที ในการแถลงข่าวร่วมกัน เพื่อยืนยันว่าทุกพรรคเห็นชอบในหลักการของโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม การแถลงครั้งนี้ นายกฯ ก็สร้างมิติใหม่ โดยเปิดให้สื่อมวลชนซักถาม แต่ยังไม่มีใครทันได้เอ่ยปากถาม นายกรัฐมนตรี ก็สรุปเองว่าไม่มีคำถาม กล่าวขอบคุณปิดการแถลงข่าวเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตทันที จนแม้แต่บรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และข้าราชการที่ร่วมแถลงข่าวก็ยังมึนงง ก่อนทั้งหมดจะหัวเราะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย และแยกย้ายกันเดินออกไปแบบสะเปะสะปะ ไม่รู้จะไปทางไหนดี รัฐมนตรีบางคนต้องกลับมาเรียกทีมงานที่ยืนงงอยู่ให้เดินตามออกไป
ที่จริงท่านนายกฯ ไม่ได้ไปไหน ยังแถลงเรื่องอื่นต่อ เพียงแต่มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดย นายจุลพันธ์ ได้ตอบในรายละเอียดว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เคาะวันเริ่มต้นโครงการ เพราะขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบมารองรับก่อนการจัดทำแอปพลิเคชัน มีรายละเอียดต้องพิจารณาหลายส่วน แต่ยืนยันว่ายังคงเป็นไปตามกรอบเดิมคือ เปิดให้ลงทะเบียนในช่วงไตรมาสที่ 3 และเปิดใช้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการนำเงิน ธ.ก.ส. มาใช้ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ว่าเป็นการดำเนินการตามกระบวนการงบประมาณประเภทหนึ่ง แต่ยอมรับว่าหลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องอำนาจหน้าที่ ซึ่งทางรัฐบาลก็พร้อมสอบถามข้อสงสัยทางกฎหมายต่าง ๆไปยังกฤษฎีกา
โดยก่อนการประชุม ครม. นายจุลพันธ์ ได้เปิดเผยกับสื่อว่า การใช้งบประมาณของ ธ.ก.ส. เป็นมาตรการกึ่งการคลัง "ที่ไม่ใช่การกู้เงิน" การระบุว่ารัฐบาลกู้เงิน ธ.ก.ส. เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด รัฐบาลไม่สามารถกู้เงิน ธ.ก.ส. ได้ ส่วนวิธีการที่มีแย้ม ๆ ออกมาจาก นายจุลพันธ์ ก็คือ การเพิ่มทุน ธ.ก.ส. บอกว่า ได้มีการพูดคุยกันในส่วนของคลังว่า การเติมทุนลงไป 1 บาท จะกลายเป็นสินเชื่อให้เกษตรกรได้ 11 บาท ตอนนี้กำลังพิจารณารายละเอียดอยู่ ส่วนจะเท่าไหร่ เชื่อว่าคุยกันอีก 1-2 ครั้ง น่าจะได้ข้อสรุป
รัฐบาลยัน ร้านค้า 1.2 ล้านราย ได้ประโยชน์ คาดเงินสะพัด 6.5 แสนล้านบาท
ต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมติ ครม.ในเรื่องนี้อีกครั้ง ยืนยันไทม์ไลน์และรายละเอียดเดิมตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนนี้ คือ จะใช้งบประมาณวงเงิน 5 แสนล้านบาท คาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 เพิ่มร้อยละ 1.2-1.8 และในช่วง 3 ปี (ปี 67-69) จะมีเงินหมุนเวียนในระบบ 6.5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ปฏิเสธข้อครหาว่าโครงการนี้ว่า ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้เงินไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัวและร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น โดยบอกว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริงทั้งหมด
