จับ นศ.นิติศาสตร์ ขายปืนไทยประดิษฐ์ ส่งทั่วประเทศ รายได้ดี ยึดเป็นอาชีพหลัก

View icon 103
วันที่ 21 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รายได้ดี นศ.นิติศาสตร์ เบื่อเป็นเชฟ ยึดอาชีพหลัก ขายปืนไทยประดิษฐ์ ส่งทั่วประเทศ สืบนครบาลตามจับ ขณะนำปืน 10 กระบอกส่งลูกค้า พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีแล้ว แต่ไม่เข็ด

วันนี้ (21 ก.พ.67) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตระหนักและเน้นย้ำให้กำลังพลในสังกัดเฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนต่างๆ ทางออนไลน์และช่องทางอื่น จนชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ออกแกะรอยสืบสวนจนพบว่า นายธงชัย หรือ "แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ" อายุ 28 ปี มีพฤติกรรมลักลอบนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาดต่างๆ ส่งจำหน่ายทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอีก 1 ตัวการสำคัญและเป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นในสังคมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายที่ต้องรีบสืบสวนจับกุมให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาวันที่ 20 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้นำกำลังไปกระจายกันเฝ้าติดตาม เพื่อตรวจค้นจับกุมนายธงชัย โดยพบตัวขณะขับรถกระบะส่วนตัวนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไปจัดส่งให้แก่ลูกค้า เมื่อแสดงตัวเข้าตรวจค้น สามารถตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 รวมจำนวน 10 กระบอก ในสภาพบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุพร้อมจัดส่งให้แก่ผู้รับ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายซึ่งอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากการซักถามนายธงชัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนอยู่ระหว่างเรียนคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (ใกล้จบ) เดิมทีเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี จึงหันมาเป็นเชฟทำอาหารอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครสวรรค์ ทำอยู่ 1 ปี รู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ ต่อมาช่วงประมาณต้นปี 2564 เพื่อนได้ชักชวนให้ไปเอาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ในพื้นที่อำเภอพยุหะคีรี ในราคากระบอกละ 4,000 บาท เพื่อนำมาขายต่อในราคา 6,000 บาท เห็นว่าได้กำไรดี จึงยึดเป็นอาชีพหลักตลอดมา

จนถูกจับกุม ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน) เมื่อเดือน ต.ค.64 ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ช่วงนั้นก็เลยหยุดรับปืนมาขาย กระทั่งช่วงเดือนพ.ย.66 ตนกลับมาทำอาชีพนี้อีกครั้ง จนถูกจับกุมในวันนี้ เงินที่ได้จากการจำหน่ายอาวุธปืนนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เลี้ยงไก่ หาความสุขใส่ตัวไปวันๆ

หลังจากจับกุมผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดีส่ง สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป