องคมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครสวรรค์

View icon 72
วันที่ 22 เม.ย. 2567
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี และพลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางนครสวรรค์ ขนาด 666 เตียง ในส่วนของการรักษาผู้ต้องขัง มีห้องปันสุข สำหรับแยกรักษา เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและด้านความปลอดภัย  2 ห้อง 8 เตียง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเครื่องมือแพทย์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ได้แก่ รถเอกซเรย์ระบบดิจิทัล และเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่าเครื่องเดิม ลดเวลาในการรักษาผู้ป่วยสำหรับให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่

จากนั้น ไปตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางนครสวรรค์ ซึ่งควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 25 ปี  มีผู้ต้องขังชาย-หญิง รวม 3,010 คน มีการดำเนินงานเพื่อสุขภาพอนามัยของผู้ต้องขัง อาทิ การคัดกรองวัณโรครายใหม่, การคัดกรองตรวจหาเชื้อเอชไอวี, ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบซี  สำหรับผู้ต้องขังหญิงได้รับการคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก มีแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เข้าไปตรวจรักษาโรค และทันตกรรมทุกเดือน ด้านสุขภาพจิต มีการคัดกรองในผู้ต้องขังแรกรับ และประเมินด้วยแบบคัดกรองทุกคน

ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช 141 คน ได้รับการดูแลรักษาทุกคน ผู้ต้องขังที่ติดยาเสพติด มีการประเมินคัดกรอง ส่งต่อ เพื่อบำบัดรักษา จัดโปรแกรมการพัฒนาพฤตินิสัย ทั้งอาชีวบำบัดและศาสนบำบัด มีพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ 6 คน นักจิตวิทยา 2 คน และอสรจ. 86 คน

ในช่วงบ่าย เดินทางไปสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครสวรรค์ รับเด็กและเยาวชนควบคุมตัวตามคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัว 5 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์, ชัยนาท, กำแพงเพชร, เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี มีเด็กและเยาวชน อยู่ในความดูแล 53 คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์และยาเสพติด

มีโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังไผ่ และศูนย์อนามัยที่ 3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนครสวรรค์ ให้บริการและให้ความรู้ด้านสุขภาพ ตรวจคัดกรองและให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คัดกรองวัณโรค ตรวจสุขภาพจิตและจิตเวช สำหรับเยาวชนต่างด้าวที่เจ็บป่วย จะทำหนังสือขออนุเคราะห์การรักษาไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย และด้านศึกษาบำบัด มีการจัดการศึกษาทั้งสายสามัญและวิชาชีพ อาทิ หลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ช่างตัดผม 40 ชั่วโมง และหลักสูตรการทาสีอาคาร  30 ชั่วโมง

จากนั้น เดินทางไปยังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 6 จังหวัดนครสวรรค์ มีเด็กและเยาวชนชาย-หญิงในความดูแล 131 คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังไผ่ และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย เข้าไปตรวจสุขภาพ อาทิ คัดกรองวัณโรคในเด็กและเยาวชนรับใหม่ทุกราย หากพบความผิดปกติ จะให้คำแนะนำหรือส่งพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย รักษาทุกราย, มีการคัดกรองการใช้ยาเสพติดเด็กและเยาวชนรับใหม่ทุกราย ด้านการศึกษาดำเนินการร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์ เด็กและเยาวชนที่อยู่ในการควบคุมได้เข้ารับการศึกษาสายสามัญครบทุกคน และด้านอาชีวบำบัด เปิดหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น 40 ชั่วโมง 9 หลักสูตร เช่น ช่างเชื่อมโลหะ และศิลปะ (ลงรักปิดทอง) หลังจบหลักสูตร จะได้ใบประกาศนียบัตรรับรองการการจบวิชาชีพนั้น ๆ

ต่อจากนั้น เดินทางไปยังทัณฑสถานเปิดหนองน้ำขุ่น อำเภอบรรพตพิสัย ซึ่งควบคุมผู้ต้องขังเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย กำหนดโทษเหลือไม่เกิน 7 ปี ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังชาย จำนวน 292 คน โดยการดำเนินงานด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ยา และไม่ใช่ยา รวมถึง บุคลากรด้านสาธารณสุข จากโรงพยาบาลบรรพตพิสัย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย และบริษัทเอกชนในการดูแลสุขภาพกาย, ด้านสุขภาพจิต มีโรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ เข้ามาดูแล ซึ่งถือเป็นโมเดลที่ดีในการแยกดูแลระหว่างสุขภาพกายและจิต, ด้านการป้องกันและควบคุมโรคที่สำคัญ มีการคัดกรองโรคเอชไอวี ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบซี และวัณโรคในผู้ต้องขังทุกราย ปัจจุบัน ไม่พบเชื้อในผู้ต้องขัง

สำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขังป่วยจิตเวช จะส่งต่อข้อมูลไปยังสำนักงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลภูมิลำเนาทุกราย โดยโรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ จะติดตามตัวผู้ต้องขังหลังจากพ้นโทษด้วย นอกจากนี้ มีการจัดโปรแกรมการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังโดยใช้อาชีวบำบัดและศาสนบำบัด

จากนั้น เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน "โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ณ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 90 เตียง ให้บริการตรวจสุขภาพตามหลักสิทธิมนุษยชน ให้บริการสาธารณสุข ครบทั้ง 6 ด้านแก่ผู้ต้องขังในทัณฑสถานเปิดหนองน้ำขุ่น แบบมีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม ส่วนการรักษาผู้ต้องขัง มีห้องปันสุข สำหรับแยกรักษาผู้ต้องขังจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและด้านความปลอดภัย จำนวน 1 ห้อง 1 เตียง ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีผู้ต้องขังป่วยจากทัณฑสถานเปิดหนองน้ำขุ่น เข้ารับการรักษา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง