วันนี้ (16 ก.พ. 67) เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทินภัทร จันทร์สุข สารวัตร(สอบสวน) สภ.บางเสาธง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขณะกู้ภัยกำลังให้การช่วยเหลือคนเจ็บที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำด้วยตัวเอง เป็นเหตให้มีผู้บาดเจ็บเป็นกู้ภัยเพิ่มอีก 1 คน เหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองเจริญราษฎ์ ถนนเทพารักษ์ กม.22 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ขาเข้า อ.บางพลี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ทางลงสะพานข้ามคลองเจริญราษฎ์ พบทีมกู้ภัยกำลังให้การช่วยเหลือคนเจ็บ เป็นชาย 1 คน เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มด้วยตัวเอง โดยขณะกำลังยกคนเจ็บขึ้นเตียงสนาม จู่ ๆ มีรถยนต์กระบะ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ปท 7080 กรุงเทพมหานคร มีนายสมบูรณ์ อายุ 68 ปี เป็นคนขับ โดยขับมาพุ่งชนกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู สีขาว หมายเลขทะเบียน ถห 5553 กรุงเทพมหานคร ของ นายธีรพล พ่อค้า อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู พังยับเยิน ทำให้รถกระเด็นถอยหลังเข้าไปกระแทกอาสาสมัครกู้ภัยฯที่กำลังยกคนเจ็บขึ้นเตียงสนามได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ส่วนคนเจ็บพร้อมเตียงสนามตกลงกระแทกพื้นเจ็บซ้ำอีกรอบ
หลังจากตั้งสติได้ ทีมกู้ภัยอีกหนึ่งชุดเข้ามาสนับสนุน นำคนเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มด้วยตนเอง นำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 3 ไปก่อน ส่วนกู้ภัยเจ้าของรถที่ถูกพุ่งชน หลังเคลียร์กับคู่กรณีแล้ว ก็ไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ 3 เช่นกัน
จากการสอบถาม นายเคน พลเมืองดี กล่าวว่า ตนกับทีมกู้ภัยกำลังให้การช่วยเหลือคนเจ็บนำขึ้นรถ จู่ ๆ มีคนเมาขับรถยนต์กระบะเข้ามาพุ่งชนรถของทีมกู้ภัย ที่จอดกั้นทางเซฟคนเจ็บเอาไว้ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บซ้ำซ้อนเพิ่มอีก ส่วนคนขับรถยนต์กระบะอ้างมองไม่เห็น
ด้านนายสมบูรณ์ คนก่อเหตุขับรถกระบะ กล่าวว่า ตนขับรถออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของนายกฯท้องถิ่นคนหนึ่ง โดยดื่มเบียร์มาแค่ 2 กระป๋อง ยังไม่ถึงกับเมามาก กำลังจะกลับบ้านพักที่อยู่ในหมู่บ้านไทยประกันฯซึ่งอยู่ถัดไป ซึ่งมองไม่เห็น ต้องขอโทษและยอมรับผิด อะไรหยวนได้ก็หยวนกันไป
ขณะที่ นายธีรพล กล่าวว่า ขณะกำลังช่วยเหลือคนเจ็บจากเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเอง จู่ ๆ รถยนต์ของตัวเองกระเด็นมากระเทกตนกับคนเจ็บที่อยู่บนเตียงสนาม กระเด็นไปคนละทิศทาง ตนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย คนเจ็บตกกระแทกพื้น ส่วนพลเมืองดีถอยหลังหลบทัน โดยขณะเกิดเหตุรถของตนเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน มีแสงสว่างชัดเจน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำคนเห็นเหตุการณ์และผู้เสียหาย จากนั้นเชิญตัวคนขับรถกระบะไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ในกระแสเลือด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
