สัปดาห์หน้าเรียกประชุมใหญ่ คดีตบทรัพย์ข้าราชการ

แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับ 2 คน มีการเปิดเผยข้อมูลว่า คนหนึ่งเป็นตัวการสำคัญ อีกคนเป็นบัญชีม้า แต่คดีไม่ได้จบแค่นี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหลาย "วง" ที่ตำรวจต้องขยายผล ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารับไม่ได้กับพฤติการณ์ตบทรัพย์ข้าราชการ เคยมีนโยบายสั่งปราบปรามปัญหานี้ไปแล้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงคดีขบวนการตบทรัพย์ข้าราชการ ยืนยันว่า รับไม่ได้กับขบวนการแบบนี้ เคยให้นโยบายกับฝ่ายปราบปรามไว้แล้ว ว่าต้องจัดการกับเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าจะเป็นข้าราชการคนใดก็ตาม

ซึ่งเมื่อสอบถามความคืบหน้าว่าคดีนี้ ทาง พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการ ปปป. บอกว่า คดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว จะมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งเป็นตัวการสำคัญ อีกคนเป็นบัญชีม้า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนไปรวบรวมภาพวงจรปิด, พยานเอกสาร และคำให้การของผู้เสียหายมาก่อน คาดว่าไม่เกิน 3 วัน ถึงจะออกหมายจับได้

ขณะที่ภายในสัปดาห์หน้า จะมีการเรียกประชุมใหญ่คณะทำงาน เพื่อหารือแนวทางการสืบสวนสอบสวน รวมถึงกำหนดจุดที่จะขยายผลเข้าตรวจค้นเป้าหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลาย "วง" ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวผู้เสียหายจาก "กรมฝนหลวง" และผู้เสียหายที่เคยสังกัด "กระทรวงยุติธรรม" จะเข้าแจ้งความ ตนเองยังไม่ได้รับการประสานเรื่องนี้ คาดว่ามีการประสานผ่าน รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานอีกระยะ ถึงจะมีความชัดเจน

ขณะที่เมื่อวาน ตำรวจ บก.ปปป. ได้นำหมายศาลไปเข้าตรวจค้นบ้านพัก อดีตภรรยาของนายเอกลักษณ์ หรือ เอก ผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ภายในหมู่บ้าน ซอยเพชรเกษม 94 เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจพบการโอนเงิน 100,000 บาท เข้าไปในบัญชีของอดีตภรรยา แต่ตรวจสอบแล้ว พบมีเงินเหลืออยู่ 50,000 บาท จึงอายัดเงินจำนวนนี้ไว้ พร้อมกับยึดโทรศัพท์ที่ตรวจพบการลบประวัติข้อความการสนทนาหลายสิบข้อความ เพื่อนำกลับไปตรวจสอบขยายผลทางคดี

โดยมีข้อมูลการสืบสวนเปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายเอก เป็นตัวการสำคัญระดับผู้สั่งการ มีชื่อเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการ, คณะกรรมาธิการ หลายโครงการ ทำให้ต้องเข้า-ออกรัฐสภาบ่อยครั้ง บางโครงการที่ผู้ต้องหาร่างขึ้นมาเพื่อของบประมาณ ได้ใส่ "ปม" หรือ "เงื่อนไข" เข้าไปใน TOR เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มตัวเองได้งาน จากนั้นก็ส่งต่อจุดบอดนี้ให้ผู้ร่วมก่อเหตุนำไปเจรจากับข้าราชการที่เป็นเป้าหมาย พร้อมกับเสนอหนทางช่วยเหลือทางคดีแลกกับค่าดำเนินการ

ส่วนที่สร้างความตกอกตกใจเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เมื่อจู่ ๆ ก็มีเพลิงไหม้ ที่บริเวณชั้นที่ 2 ของ อาคารสูง 3 ชั้น ภายในพื้นที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนิน เขตพระนคร จะตกใจยิ่งกว่าเดิม เพราะจุดเกิดเหตุเป็นห้องของคณะทำงาน นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหลังเกิดเหตุ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นพบว่า ต้นเพลิงเกิดที่โซนปีกซ้ายของอาคาร ฝั่งห้องของ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นห้องประชุมย่อย ก่อนจะลุกลามไปยังห้องคณะที่ปรึกษา นายไชยา พรหมา ซึ่งภายในห้องต้นเพลิงมีเพียงโต๊ะประชุมยาว 1 ตัว เก้าอี้ประมาณ 10 ตัว ส่วนห้องคณะที่ปรึกษา มีโต๊ะทำงาน และเอกสารต่าง ๆ โดยในห้องคณะที่ปรึกษา ได้รับความเสียหายที่บริเวณห้องครัว ห้องน้ำ และมีฝ้าเพดานร่วงลงมา และยืนยันว่าเพลิงยังไม่ได้ลุกลามไปยังห้องทำงานส่วนตัวของ นายไชยา แต่อย่างใด