หญิงวัย 60 ปี อ้างตนเป็นลูกสาวของนักเตะตำนานบราซิล “เปเล่” ผู้ล่วงลับ ยื่นเรื่องขอขุดศพ “เปเล่” ขึ้นมาพิสูจน์ DNA
วันนี้ (23 ม.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “มาเรีย โด โซคอร์โร อาเซเวโด” หญิงวัย 60 ปี ยื่นเรื่องฟ้องร้องมา 5 ปี เพื่อพิสูจน์ว่า “เปเล่” สุดยอดนักเตะตำนานชาวบราซิลที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เป็นพ่อของเธอ โดยการขุดร่างของ “เปเล่” ขึ้นมาพิสูจน์
โดย “เปเล่” เจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ขณะอายุ 82 ปี ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่ง “เปเล่” แต่งงานมา 3 ครั้ง และมีลูก 7 คน โดยก่อนหน้านี้ ลูกสาวของเปเล่ 2 คน คือ “เอดินโญ่ นาสซิเมนโต” และ “ฟลาเวีย คริสตินา” ตกลงที่จะตรวจ DNA หลังการอ่านพินัจกรรมของ “เปเล่” เพราะ “เปเล่” อาจจะลูกมากกว่า 7 คน
โดยสื่อบราซิลอ้างคำพูด ทนายของ “มาเรีย โด โซคอร์โร อาเซเวโด” ว่า ผลตรวจเบื้องต้นเป็นลบ แต่ผลการตรวจ DNA มีความเป็นไปได้สูงที่มีการเชื่อมโยงทางสายเลือด และวิธีเดียวที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้คือการขอขุดร่างของ “เปเล่” ขึ้นมาตรวจ และมีการอ้างว่า “เปเล่” ได้ยินยอมที่จะตรวจ DNA แต่เจ้าตัวได้เสียชีวิตไปก่อน
นอกจากนี้ “มาเรีย โด โซคอร์โร อาเซเวโด” กล่าวในรายการทีวีของบราซิลเมื่อวันอาทิตย์ (21 ม.ค. 67) ที่ผ่านมา ว่า เธอไม่ได้สนใจมรดกของ “เปเล่” เธอเพียงแค่ต้องการยืนยันว่าตนเป็นลูกคนที่ 8 และเธอกล่าวว่า แม่ของเธอซึ่งเสียชีวิตไปแล้วไม่เคยบอก “เปเล่” ว่า แม่กำลังตั้งท้องลูกอยู่ ขณะคบหากันช่วงหนึ่งที่เมืองมารานเยาของบราซิล
ขณะที่ ทนายของครอบครัว “เปเล่” กล่าวว่า ครอบครัวจะปฏิเสธคำร้องดังกล่าวแน่นอน บนพื้นฐานที่ว่าการตรวจ DNA ที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้น แสดงให้เห็นว่า “มาเรีย โด โซคอร์โร อาเซเวโด” ไม่ใช่ลูกสาวของ “เปเล่”
ทั้งนี้ มรดกของ “เปเล่” ขณะที่เขาเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 78 ล้านปอนด์ โดยได้แบ่งมรดกเป็นอสังหาริมทรัพย์ 30% ให้กับภรรยา 3 คน และอีก 60% แบ่งให้ลูก ๆ และอีก 10% ให้กับหลาน 2 คน ซึ่งหาก “มาเรีย โด โซคอร์โร อาเซเวโด” ได้รับการยอมรับว่า เป็นลูกคนที่ 8 ของ “เปเล่” เธอจะสามารถเรียกร้องส่วนแบ่งในที่ดินที่มอบให้กับลูก ๆ ของ “เปเล่” ได้
