สภาฯ ล่ม ใคร ? ไม่คิดถึงประชาชน

View icon 26
วันที่ 1 ก.ย. 2566
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เปิดประเด็นชวนคิด เกี่ยวกับเหตุการณ์สภาฯ ล่มเมื่อวานนี้ ซึ่งทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างก็สาดวาทกรรมใส่กันว่า ไม่คิดถึงประชาชน หรือบางคนก็พูดแรงไปถึงขั้นไม่เห็นหัวประชาชน จงใจทำสภาฯ ล่ม ทั้ง ๆ ที่กำลังพิจารณาญัตติแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ

สภาฯ ล่ม ใคร ? ไม่คิดถึงประชาชน
ก็เรียกว่าซัดกันนัวละ ฝั่งหนึ่งก็ขอนับองค์ประชุม อีกฝั่งบอก จะนับทำไม กำลังพิจารณาเรื่องปัญหาประชาชน ในมุมของประชาชนที่มีเสียงสะท้อนผ่านโลกออนไลน์ ก็บี้ทั้ง 2 ฝั่งบอกว่า รัฐบาลและฝ่ายค้านนั่นแหละ อย่ามัวมาสาดวาทกรรมใส่กันเลย เอาเวลามาเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนจะดีกว่า

ซึ่งประเด็นนี้เรียกว่าร้อนแรงในโลกออนไลน์ด้วย ถึงขั้นแฮชแทกสภาล่มติดเทรนด์ X หรือ เทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว แซงเรื่องปังชาไปเลย

สภาฯ ล่มครั้งแรก ประเดิมรัฐบาลสลายขั้ว 314 เสียง 
การล่มของสภาฯ ครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากเพิ่งจะเปิดประชุมกันมาได้แค่เดือนเศษเท่านั้นเอง โดยฝั่งพรรคก้าวไกลที่เดินเกมให้นับองค์ประชุม ระหว่างพิจารณาญัตติขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เพื่อเกษตรกร

โดย นายปิยรัฐ จงเทพ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอให้นับองค์ประชุม หลังมองซ้าย มองขวา เห็นแล้วว่า สส. รัฐบาลอยู่กันแบบโหรงเหรง จนทำให้เกิดการประท้วงกันไปมา

แม้ว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จะพยายามไกล่เกลี่ยก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็ต้องนับองค์ประชุม ผลปรากฏว่ามีผู้แสดงตนเพียงแค่ 98 คน ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ต้องปิดประชุมไปช่วง 16.04 น. ถือป็นการประเดิมล่มนัดแรก หลังพรรคเพื่อไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง ที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเสียงแน่นปึ้ก แต่เรือเพิ่งแล่นออกจากฝั่งก็ล่มซะแล้ว

หลังสภาฯ ล่ม ฝั่งเพื่อไทยก็กล่าวหาว่าก้าวไกลเอาแต่เล่นเกมการเมือง ไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง

ส่วนพรรคก้าวไกลจัดหนักในโลกออนไลน์ ตั้งคำถามไปถึง สส. รัฐบาลว่า ห่วงปัญหาประชาชนจริง ๆ หรือแค่การโฆษณา ที่คุณผู้ชมเห็นในภาพจะเป็นตัวเลข 96 ที่ปรากฏบนจอในห้องประชุมสภาฯ หลังนับองค์ประชุม แต่ความจริงตัวเลขผู้แสดงตนจะเป็น 98 อย่างที่เราเรียนไปในตอนต้น มี 2 คนมาเติมทีหลัง จึงไม่ได้ถูกรวมขึ้นจอ 

ขณะที่ผู้คนในโลกออนไลน์ ยังขุดทวิตเก่าของ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่โพสต์ว่า หน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นของ สส. รัฐบาล ถ้า พลเอก ประยุทธ์ คุมเสียงข้างมากในสภาฯ ไม่ได้ ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำเตือนความทรงจำรัฐบาลสลายขั้วของเพื่อไทยด้วย

อาจสงสัยว่า รัฐบาลสลายขั้วมี สส. ในมือตั้ง 314 คน เกินครึ่งจากจำนวนที่มีอยู่ 498 คน ไปตั้งเยอะ ไปทำอีท่าไหน สภาฯ ถึงล่มได้ เรื่องนี้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาฟ้องประชาชนว่า ลานจอดรถชั้นบี 2 โล่งตั้งแต่ตอน 12.00 น.ของเมื่อวาน เรียกว่า สส. รัฐบาล มาลงชื่อแล้วก็ไปไม่อยู่ทำหน้าที่ ยังจะมีหน้าดรามาว่าพี่น้องเกษตรกรสำคัญ ถ้าเห็นเกษตรกรสำคัญจริง กลับบ้านก่อนทำไม

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง วอนนักการเมืองเห็นแก่ส่วนรวม
ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เขาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ที่เดือดร้อนหนักเลยจนถึงขั้นต้องตะโกนดัง ๆ ให้สังคมรับรู้ก็ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ขาดทุนกันแบบย่อยยับ เพราะในขณะที่ต้นทุนกุ้งขาวไซซ์ 100 ตัวกิโลกรัม ประมาณ 126 บาท

แต่ช่วงนั้นกลับขายได้แค่กิโลกรัมละ 105 บาทเท่านั้น พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน ด้วยการชดเชยราคาให้สูงกว่าต้นทุนการผลิตได้หรือไม่ ที่สำคัญขอให้กรมประมงหยุดอนุญาต นำกุ้งจากต่างประเทศเข้ามา ในช่วงที่ราคากุ้งตกต่ำ เป็นความเดือดร้อนที่ทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านต่างก็รับรู้อยู่เต็มอก แต่สุดท้ายการเริ่มต้นนับหนึ่งจากสภาฯ เพื่อแก้ปัญหานี้กลับยังดำเนินการไม่ได้ 

และวันหาเสียงบอกว่าปัญหาประชาชนมาก่อน ถึงวันได้อำนาจประชาชนเริ่มสงสัยว่าท่านผู้ทรงเกียรติ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือยัง การฟาดฟันชิงไหว ชิงพริบ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ควรมีจุดสมดุลอยู่ที่ตรงไหน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องพึงระลึกไว้เสมอ