กลุ่มไอเอสกราดยิงมัสยิดนิกายชีอะฮ์ ในประเทศอิหร่าน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน ซึ่งทางสื่ออิหร่านเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เป็นการก่อการร้ายของกลุ่มติดอาวุธอิสลาม นิกายซุนนี ขณะที่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว
วันนี้ (27 ต.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ "ไอเอส" (Islamic State) ออกมาอ้างว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงโจมตีมัสยิด "ชาห์ ชีรักห์" ซึ่งเป็นของชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ์ ในเมืองชีราซ ประเทศอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 40 คน
โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้ยิงเจ้าหน้าที่บริเวณปากทางเข้ามัสยิด ก่อนที่ปืนไรเฟิลของคนร้ายจะขัดข้อง ผู้เห็นเหตุการณ์จึงพยายามไล่ตามจับคนร้าย ระหว่างวิ่งไล่กันคนร้ายสามารถแก้ไขปืนให้กลับมาใช้การได้อีกครั้ง จึงหันกลับมากราดยิงใส่ผู้คนที่วิ่งตามมา ก่อนที่จะเข้าไปกราดยิงประชาชนที่กำลังประกอบศาสนกิจภายในมัสยิด ซึ่งสื่อของอิหร่านเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เป็นการก่อการร้ายของกลุ่มติดอาวุธอิสลาม นิกายซุนนี ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทางการอิหร่านสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ในวันครบรอบ 40 วัน ของการเสียชีวิตของนางสาว "มาห์ชา อามินี" หญิงชาวเคิร์ด ที่เสียชีวิต หลังจากถูกตำรวจอิหร่านจับกุม ขณะที่ รัฐมนตรีมหาดไทยของอิหร่าน ออกมากล่าวโทษว่า การประท้วงดังกล่าว เป็นการเปิดทางให้กลุ่ม "ไอเอส" สามารถก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ได้
