จำนนต่อหลักฐาน คนขับรถบรรทุกตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ยอมรับเสพก่อนขับรถ ตำรวจเตรียมแจ้ง 5 ข้อหา
4 ธ.ค.66 จากกรณีคนขับรถบรรทุก ซิ่งรถหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนต้องมีการสกัดจับกุมและไล่ล่าตัว ถึงขั้นตำรวจต้องใช้ปืนยิงยางสกัด แต่คนขับไม่ยอมมอบตัว ไม่ยอมหยุดรถ ขับหนี ชนรถตำรวจ รถกู้ชีพ รถนักข่าว และรถชาวบ้าน จนได้รับความเสียหายเกือบ 20 คัน หนีไกลกว่า 20 กิโลเมตร จนมาจนมุมที่ใต้ BTS สถานีทิพวรรณ บนถนนเทพารักษ์ กม 2 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมคนขับเอาไว้ได้ และจาการตรวจค้นภายในรถไปพบยาเสพติด เป็นยาบ้า 3 เม็ดบรรจุในซองพลาสติกใส จึงคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายที่สภ.สำโรงใต้ โดยคนขับรถบรรทุก ยังคงยืนกรานว่า ตนเองไม่ได้เสพยาเสพติด ที่ต้องขับรถหนีเนื่องจากตกใจที่ถูกตำรวจเรียก
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รถบรรทุกซิ่งหนีตำรวจชนรถเสียหายกว่า 20 คัน
ช่วงค่ำที่ผ่านมา พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางไปที่สภ.สำโรงใต้ เพื่อตรวจสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมทั้งสั่งการให้ รองผู้บังคับการที่เกี่ยวข้องลงมาดูคดีในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะถือว่าเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและมีผู้เสียหายจำนวนมาก
พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ บอกว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนอื่นต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฎิบัติทุกนายรวมถึงสื่อมวลชนที่ช่วยกันสกัดจับ ชุดจับกุมดังกล่าว ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย แต่ก็ยังโชคดีที่บาดเจ็บเล็กน้อย รวมถึงไม่มีประชาชนได้รับอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนตัวผู้ต้องหารายนี้ จากการตรวจสอบนอกจากยาบ้า 3 เม็ดที่พบ ยังพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งจากการสอบถามคนขับรถบรรทุก ในการรับสารภาพว่า เสพยาบ้ามาก่อนที่จะขึ้นมาขับรถ หลังจากนี้จะออกหมายเรียกตัวผู้ประกอบการเจ้าของรถมาสอบสวนเพิ่มเติมและตรวจสอบสินค้าภายในรถด้วยว่าถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น คงเป็นความรับผิดโดยตรงกับทางตัวผู้ต้องหาและบริษัทรถขนส่ง ส่วนข้อหาที่จะดำเนินการกับทางผู้ต้องหารายนี้ ในเบื้องต้นคือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ , มีสารเสพติดในร่างกายขณะขับขี่ยานพาหนะ , มียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ , ขับรถโดยประมาทไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ,ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของทางราชการและผู้อื่นได้รับความเสียหาย ส่วนจะเข้าข่ายพยามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างสอบสวนหากพบว่าเป็นการเข้าข่ายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที
ทั้งนี้จากการสอบถาม สิบตำรวจตรี พีรพัฒน์ อ่องผู้ดี ผบ.หมู่จราจรปฎิบัติหน้าที่บนทางด่วนบูรพาวิถี เล่าว่า สังเกตเห็นรถบรรทุกคันนี้ต้องสงสัย ติดธงชาติของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งคนขับมีสีผมสีทองคล้าย กับเป็นบุคคลต่างด้าว จึงเรียกรถให้ชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อให้หยุดรถ เพื่อเชิญลงมาตรวจสอบบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ แต่คนขับอ้างว่าไม่มีและไปหยิบที่รถ ซึ่งขณะได้กลิ่นแปลก ๆ คล้ายกินยาบ้าโชยมาจากตัวคนขับ เมื่อคนขับไปถึงรถ ก็ได้เร่งเครื่องหลบหนีทันทีจังวิทยุไล่สกัดจับ
