ข่าวภาคค่ำ - สมาคมธนาคารไทย นัดหารือทางออก หลัง นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้การลดดอกเบี้ย ไม่ใช่เครื่องมือหลักในการแก้ปัญหาหนี้สิน
ธปท.ไม่ขวาง ดิจิทัลวอลเล็ต แนะแจกแบบเจาะจง
หลังตัวแทนสมาคมธนาคารไทย 4 แห่ง เข้าพบ นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ โดย นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือในการลดภาระดอกเบี้ยให้ประชาชน เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา สมาคมธนาคารไทย ได้นัดหารือเรื่องนี้ร่วมกันเพื่อหาทางออก ซึ่งก็มีรายงานว่า การหารือดังกล่าวใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
ด้าน นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ชี้การลดดอกเบี้ย ไม่ใช่เครื่องมือหลักในการแก้ปัญหาหนี้สิน แม้จะช่วยลดภาระหนี้ได้ในระยะสั้น ๆ แต่จะเกิดยอดคงค้างหนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว การแก้ปัญหาหนี้ ต้องทำให้รายได้เพิ่มขึ้น กนง. พร้อมปรับดอกเบี้ย แต่ต้องดูว่า ผลกระทบมีความยั่งยืนเพียงใด ย้ำไม่ขัดข้องกับนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากเป็นไปได้ รัฐบาลควรให้สิทธิผู้ร่วมโครงการแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่มที่ลำบาก น่าจะคุ้มค่างบประมาณ และเป็นไปตามกรอบที่ควรจะเป็น
ส่วน การดำเนินการที่รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส. นั้น ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความให้ชัดเจนก่อนว่า จะสามารถใช้แหล่งเงินตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังได้หรือไม่ และขึ้นอยู่กับบอร์ด ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ธปท. มีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินทั่วไป ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินว่าทำได้หรือไม่ได้
นายกฯ เรียกขุนคลังถกปมเอกสารลับ ธปท. ยืนยัน ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่สะดุด
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ ทั้ง รัฐมนตรีช่วย เลขานุการรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง รวมถึง นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีรายชื่อจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าหนึ่งในเรื่องที่หารือคือเอกสารของ ธปท. ที่ให้ทบทวนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
โดย รัฐบาล ระบุว่า เป็นข้อมูลเก่าที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ และชี้แจงคณะรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันเดินหน้าต่อ ไม่ทำให้โครงการสะดุดแต่อย่างใด อีกทั้งทุกขั้นตอนได้ดูข้อกฎหมายเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงินจาก ธ.ก.ส. ที่ นายกรัฐมนตรี สั่งให้ดูอย่างรอบคอบ จึงส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยพิจารณาอีกครั้ง
รวมถึงกรณีที่ ธปท. ขอให้ทบทวนการใช้ระบบ Open-loop โดยอ้างว่ามีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนานั้น รัฐบาลยืนยันระบบใหม่ใช้ง่าย และรองรับผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนด้วย
