ตามเบาะแส พบชิ้นส่วนมนุษย์ใส่ถุงดำ ถูกทิ้งย่านพิมลราช

View icon 37
วันที่ 22 เม.ย. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตั้งแต่ช่วงเย็น 19 เมษายนที่ผ่านมา มีเด็ก ๆ ไปวิ่งเล่นแล้วพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกทิ้งบนลานดินในซอย พื้นที่ ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จนผ่านมาแล้ว 3 วัน เริ่มพบวัตถุต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น ขณะที่ยังหาเบาะแสว่า เหยื่อคือใคร

ตามเบาะแส พบชิ้นส่วนมนุษย์ใส่ถุงดำถูกทิ้ง ย่านพิมลราช
ที่เกิดเหตุแรกเป็นลานดินที่เพิ่งถมใหม่ เด็ก ๆ พบกระดูกข้อมือข้างขวาของมนุษย์ และมีรอยสักเป็นลักษณะลวดลายสี แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ยังพบผ้าใบสีฟ้าวางปิดกองเลือดกองใหญ่อยู่ด้านหลังซอยจัดสรรซึ่งเป็นป่ารกร้าง เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่ามือที่พบเป็นของใคร เนื่องจากไม่ได้รับแจ้งเหตุ เบื้องต้น แพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นมือผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งตำรวจ ผู้นำชุมชน พร้อมกู้ภัย และชาวบ้านช่วยกันปูพรมค้นหาในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม เพราะมีข้อสันนิษฐานจากข้อมือที่พบซึ่งมีลักษณะเปื่อยยุ่ยเหมือนถูกแช่น้ำ จึงค้นหากระทั่งพบชิ้นส่วนมนุษย์บรรจุในถุงดำอีก 4 ถุง ในบ่อน้ำ ห่างจากลานดินที่พบชิ้นส่วนแรกประมาณ 500 เมตร

สำหรับในถุงดำที่พบ ถุงแรกเป็นกระดูกซี่โครง ถุงที่ 2 เป็นกระดูกหน้าแข้ง ถุงที่ 3 เป็นกระดูกฝ่ามือ และถุงที่ 4 เป็นชิ้นเนื้อที่ไม่สามารถระบุอวัยวะได้เนื่องจากมีลักษณะเน่าเปื่อยอย่างมาก จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สภาพชิ้นส่วนที่เป็นกระดูกแต่ละชิ้นถูกตัดขาดด้วยของมีคม เห็นร่องรอยได้อย่างชัดเจน เชื่อว่าถูกฆาตกรรม ก่อนที่คนร้ายจะแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาทิ้งเพื่อหวังอำพรางคดี

มีเบาะแสจากชาวบ้านที่ทำงานอยู่ในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่า ตนเห็นกองเลือดตรงต้นมะยมข้างโรงงานตั้งแต่ 11 เมษายน และมีรอยเลือดหยดเป็นจุด ๆ และมีกองเลือดกองใหญ่ตรงกองทราย มีลักษณะเหมือนมีคนเช็ดเลือด รอยเลือดหยดไปถึงตรงบริเวณอ่างบัว จากนั้นตนกลับบ้าน กลับมาวันที่ 18 เมษายน ตอนแรกคิดว่าคราบเลือดของสุนัข แต่จนเด็ก ๆ วิ่งมาบอกว่าเจอมือคน ตนจึงคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคราบเลือดและหยดเลือดที่ตนเห็น คาดว่าเป็นกลุ่มคนงานหลังซอยหรือไม่ เพราะมีแรงงานสัญชาติเมียนมาพักอาศัยจำนวนมาก และมีรอยลักษณะนี้หลายคน แต่ชาวบ้านบอกว่าในซอยนี้ค่อนข้างเปลี่ยว เป็นจุดบอด จึงก่อเหตุร้ายได้ง่าย

คนเก็บของเก่า มอบพลั่วเปื้อนเลือดให้ตำรวจ
ต่อมา วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา นายไพรัช เกิดเดช อาชีพเก็บของเก่า ได้นำพลั่วตักดินซึ่งอยู่ในสภาพใหม่ มีคราบเลือดแห้งกรังติดที่ปลายพลั่ว จำนวน 2 อัน มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเล่าว่าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาขณะที่ตระเวนเก็บของเก่าในซอย พบพลั่ว 2 อันนี้ ทิ้งอยู่ในกองขยะด้านข้างโรงงานเฟอร์นิเจอร์ จึงเก็บกลับบ้านไป จนมาทราบข่าวว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกฆาตกรรมใส่ถุงดำทิ้งอยู่ในบ่อน้ำซอยดังกล่าว จึงเกิดความไม่แน่ใจว่าพลั่วทั้ง 2 อัน ที่เก็บได้และมีคราบเลือดติดอยู่จะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนี้ด้วยหรือไม่ จึงตัดสินใจส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปตรวจสอบ

ร้านสักลาย ยัน ลายสักที่พบไม่น่าจะเป็นคนไทย
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง พยายามไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่ปากซอยย้อนกลับมาที่ถนนกาญจนา และข้างโรงงานเฟอร์นิเจอร์เพื่อตรวจสอบหารถต้องสงสัยนำชิ้นส่วนมาทิ้ง นอกจากนี้ ยังประสานพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลรับแจ้งคนหายเพื่อนำมาตรวจสอบ ส่วนประเด็นลายสักที่พบอยู่บนข้อมือ มีการตรวจสอบตามร้านสักต่าง ๆ เพื่อหาเบาะแสบุคคลที่ใช้บริการสัก

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านรับสักลายแห่งหนึ่ง เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการสักลวดลายและสีที่พบจากข้อมือที่ถูกนำมาทิ้ง โดยช่างสักให้ข้อมูลว่า จากสีและลวดลายน่าจะไม่ใช่คนไทย เพราะคนไทยจะไม่นิยมสักลายด้วยสีเหลือง เนื่องจากผิวคนไทยจะเป็นลักษณะขาวดำแดง ไม่ขาวเหมือนคนต่างชาติ แม้จะมีบ้างแต่เป็นส่วนน้อย ส่วนลายสักเป็นลักษณะแนวโอลสคูล นิวสคูล และ เจแปนแทททู ซึ่งจะเป็นที่นิยมสมัยยุค 90 คนที่สักลักษณะนี้ปัจจุบันน่าจะมีอายุตั้งแต่ 35-45 ปี

นอกจากนี้ ทางช่างสักยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า คนที่สักลายลักษณะนี้จะไม่ใช่พวกไฮโซ เพราะเป็นลายสักราคาถูก ที่สักกันตามร้านที่อยู่ตลาดนัด

พบรถเก๋งต้องสงสัยจอดทิ้ง พบเลื่อยไฟฟ้า มีด ในคลอง
และเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ก็พบเบาะแสที่เข้าใกล้ตัวคนร้าย รวมถึงคนที่ถูกฆาตกรรมมากขึ้น เมื่อมีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่าพบรถเก๋งนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้บริเวณริมคลองบ้านกล้วย หมู่ 3 ตำบลพิมลราช มาเป็นเวลานานเกือบเดือน ในขณะที่คนหาปลาพบเลื่อย ขวาน 2 เล่ม มีดอีโต้ 1 เล่ม อยู่ในคลอง จึงรีบแจ้งตำรวจ แล้วประสานนักประดาน้ำเพื่อมางมหา จนพบมีดเล็ก 2 เล่ม เลื่อยวงเดือนไฟฟ้า 1 ตัว ใบขนาด 6 นิ้ว 1 อัน และชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติม

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ไปที่เกิดเหตุและนำรถเก๋งคันดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่

น.ส.สุพรรษา สมพงษ์ อายุ 21 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อใกล้กับจุดที่พบรถ บอกว่า เห็นรถเก๋งคันสีขาวจอดตรงนี้มานานนับเดือน มีบางวันขับออกไปแต่ขับกลับมาจอด รถไม่ได้ยางแตกแต่จอดเปิดฝากระโปรงรถไว้ โดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตอนนี้ตำรวจได้นำรถคันนี้ไปแล้ว

เรื่องนี้ต้องติดตามต่อ เนื่องจากเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป