นักธุรกิจ อายุ 62 ปี เมาแล้วขับรถพุ่งชนบ้านคนอื่นพังยับ

View icon 346
วันที่ 20 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นักธุรกิจ อายุ 62 ปี เมาแล้วขับ ซิ่งฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงพุ่งชนบ้านคนอื่นพังยับ ปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 238 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หลังเกิดเหตุยังเดินยิ้มแป้นบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวรับผิดชอบทุกอย่าง

วันนี้ (20 เม.ย.67) เวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางชัน กทม. ได้รับแจ้งเกิดเหตุชายขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์  พุ่งเข้าชนบ้านเรือนประชาชนภายในบริเวณแยกสวนสยาม ก่อนออกถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม. หลังรับแจ้งจึงประสานกู้ภัยเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์  สีแดง ป้ายแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ติดอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง สภาพพุ่งเข้าชนประตูรั้วเหล็กที่ด้านหน้าเข้าไปติดค้าง ทำให้ประตูบ้านได้รับความเสียหาย และ สิ่งของภายในบ้านได้รับความเสียหายหนัก นอกจากนี้ ยังพบว่ามีรถเก๋งสีดำ ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าวอีกหนึ่งคันได้รับความเสียหาย สภาพพังยับเยินเช่นกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องนำรถลากเข้ามาลากรถออกจากตัวบ้าน

ส่วนคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ทราบชื่อ นายธรรมนูญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี เป็นนักธุรกิจ เจ้าของบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน  เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบางชัน และได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 238 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงดำเนินคดี 2 ข้อหา คือเมาแล้วขับ และ ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ซึ่งผู้ก่อเหตุต่อรับสารภาพ จากนั้นจึงอนุญาตให้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไป

หลังเกิดเหตุตัวแทนของผู้ก่อเหตุมาเก็บข้อมูล เพื่อนำไปประเมินความเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นความเสียหายน่าจะมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท โดยมีอยู่สองส่วนหลัก ๆ คือ บ้านและรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะรถยนต์ ซึ่งหลังเกิดเหตุนั้นได้ให้รถยกไปที่อู่ซ่อม จากการประเมินพบว่าต้องขายซาก เพราะไม่คุ้มที่จะซ่อม ซึ่งทางฝ่ายผู้ก่อเหตุยอมรับผิด และยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด

จากการสอบถาม นายอรรถพงศ์ เจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติตนอยู่บ้านกับแม่ 2 คน แต่ช่วงนี้แม่ป่วยแอดมิตที่ รพ.ได้ 3 วัน แล้ว ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงดังสนั่นที่บริเวณหน้าบ้าน จึงเดินไปดูพบมีรถพุ่งชนเข้ามาในบ้านของตนเอง สักพักคนขับเดินลงมาสภาพคล้ายคนเมา ไม่ได้สติ พูดจาวกวนไปมา และบอกว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

นายอรรถพงศ์ ยังบอกอีกว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตนเอง จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย เพราะปกติจะมีแม่นอนอยู่ในบ้านด้วย แต่ตอนเกิดเหตุแม่เข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วยที่โรงพยาบาล ก็ยังถือว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นอุทาหรณ์ของการเมาแล้วขับ ออกมาส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทางที่ดีเมาแล้วอย่าขับ ให้คนมารับกลับบ้านจะดีกว่า