ไฟป่ากำลังลุกลามอย่างหนัก และขยายเข้าไปในเขตชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น ในเมืองทางตอนกลางของชิลี หลังชิลีต้องประสบกับสถานการณ์ไฟป่ามานานกว่า 1 เดือนแล้ว ไฟป่าในชิลีที่เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนแล้ว ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ไฟป่าได้ลุกลามเข้าไปในเขตชุมชนที่มีประชากรหนาแน่นบริเวณเมืองบัลปาราอีโซ (Valparaiso) เมืองท่าทางตอนกลางของชิลี ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งปฏิบัติการควบคุมไฟป่าอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 133 คน รวมทั้ง ประชาชนที่ติดอยู่ในเมืองบัลปาราอีโซ และเมืองวินา เดล มาร์ (Vina del Mar) ซึ่งไฟป่าในครั้งนี้ ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของชิลี ในรอบ 14 ปี หรือตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อปี 2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 500 คน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศนานาชาติ (World Weather Attribution) ระบุว่า ไฟป่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเช่นนี้จะกลายเป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยขึ้นในประเทศแถบอเมริกาใต้ พร้อมกับสภาพอากาศของโลกที่ร้อนและแห้งแล้งมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหมาย
