ข่าวภาคค่ำ - ภาคเอกชน แนะรัฐบาลทบทวน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังมีข้อสังเกตุในหลายประเด็น ขณะที่ผลสำรวจพบว่า ประชาชน 27 ล้านคน ยอมรับการเงินอยู่ในภาวะวิกฤต
เอกชนแนะทบทวน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ให้รอบด้าน
หลังมีความชัดเจนว่า วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตฯ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ตั้งข้อสังเกตุในหลายประเด็น
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีความเห็นแตกต่างหลายประเด็น ซึ่งป็นข้อสังเกตที่รัฐบาลต้องนำไปพิจารณาต่อว่าเหมาะสม หรือควรปรับปรุงในประเด็นใดบ้าง ซึ่งหอการค้าไทย ยังคงเห็นว่า การดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ควรให้กลุ่มที่เปราะบางก่อน เพราะสามารถทำได้รวดเร็ว และใช้วงเงินไม่สูงมากนัก ซึ่งคิดเป็นจำนวน 16 ล้านคน และใช้วงเงินประมาณ 1.6 แสนล้านบาท
เชื่อ หลังประชุม "ดิจิทัลวอลเล็ต" หลายฝ่ายจะคลายกังวล
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา หนึ่งในแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งปกติจะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยครั้งนี้เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะหยิบยกข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. มาหารือ เชื่อว่าน่าจะคลายความกังวลของหลายฝ่ายได้
คนไทย 27 ล้านคน ชี้เงินในกระเป๋าวิกฤต
ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นจาก ซูเปอร์โพล พบว่า ประชาชนเกินกว่า 50% หรือคิดเป็นจำนวนประชากรไทยเกือบ 27 ล้านคน สถานะการเงินในกระเป๋า อยู่ในขั้นวิกฤต เมื่อแบ่งออกเป็นภูมิภาค พบว่า คนในภาคอีสานส่วนใหญ่ 77.9% ระบุการเงินในกระเป๋าของตนเอง อยู่ในขั้นวิกฤตมากที่สุด รองลงมาคือ คนในภาคใต้ ตามด้วยภาคกลาง และภาคเหนือ ส่วนความกังวลเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้แก่ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และภาวะเงินเฟ้อ ราคาข้าวของแพงขึ้น รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการทุจริตเชิงนโยบาย
