ตร.ตั้งกรรมการสอบสติกเกอร์ ดาวเขียว

View icon 55
วันที่ 9 พ.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหตุเพราะรถบรรทุกตกลงไปในหลุมปากท่ออุโมงค์สายไฟฟ้าใต้ดิน ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องอุบัติเหตุแล้ว แต่ลุกลามไปถึงเรื่องสติกเกอร์รูปดาวสีเขียวที่ติดอยู่หน้ารถบรรทุก และเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด

ตร.ตั้งกรรมการสอบสติกเกอร์ "ดาวเขียว"
จากกรณีเมื่อวานนี้ เกิดเหตุรถยนต์บรรทุก วิ่งมาตามถนนสุขุมวิทขา เมื่อชับขี่มาถึงบริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ได้เกิดเหตุฝาครอบหลุมท่ออุโมงค์ได้พังลงมา ส่งผลให้รถบรรทุกตกลงไปในหลุม ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จากนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงสติกเกอร์ดาวสีเขียวที่ติดหน้ารถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุว่า คืออะไร ต้องติดตามสอบสวนมาให้ได้ หากจะบอกว่าติดเล่น สังคมคงไม่เชื่อ ส่วนการนำดินไปทิ้งก่อนหน้านี้ ต้องนำกลับมาคำนวณให้ได้ ว่าสรุปแล้วรถคันนี้มีการบรรทุกดินน้ำหนักเท่าไหร่ เกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ และต้องมีการดำเนินคดีเรื่องการทำลายวัตถุหลักฐาน ส่วนตำรวจที่เปิดกรวยให้ ก็ต้องถูกดำเนินคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และหากสืบสาวไปแล้ว ผู้กำกับ สน.พระโขนง รู้เรื่องด้วย ก็ต้องโดนด้วยเช่นกัน

ต่อมา พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พันตำรวจเอก วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องส่วยรถบรรทุก "ดาวเขียว" และบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ต้องทำให้คลายข้อสงสัยต่อประชาชน ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ล่าสุด ตอนนี้ได้มีการประชุมกันแล้ว คาดว่าไม่เกิน 3 วันคงรู้ผล

มีรายงานข่าวมาว่า สติกเกอร์ดังกล่าวเป็นที่รู้กันในชื่อ "ดาวเขียว" มีเสี่ยบิ๊ก เป็นเจ้าของกิจการ มีรถบรรทุกอยู่ประมาณ 4-5 คัน ส่วนใหญ่วิ่งรับงานบรรทุกอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น บริษัทจะตั้งอยู่แถวอ่อนนุช

ส่วนทางด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรณีถนนทรุดตัวที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ เกิดหลังรถบรรทุกวิ่งผ่าน ทำให้ต้องกำชับให้เข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัย โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินมีทั้งหมด 879 ฝาบ่อ ผู้รับเหมาต้องไล่ตรวจสอบให้เกิดความปลอดภัย

สำหรับฝาบ่อฯ ถนนทรุดตัวในบริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 นายชัชชาติ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสามารถดำเนินคดีกับเจ้าของรถบรรทุกได้อย่างไรบ้าง

ขณะนี้ยังไม่ได้บอกว่าเขาผิด และไม่อยากให้โฟกัสไปที่รถบรรทุกคันที่ประสบเหตุ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าไปดูในพื้นที่ก่อสร้างว่ามีจุดบกพร่องหรือไม่ ฝาบ่อต่าง ๆ ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย

ส่วนแนวทางแก้ป้องกันและแก้ปัญหาในระยะสั้น จะร่วมมือกับกรมทางหลวงและตำรวจ ออกสุ่มตรวจน้ำหนักรถบรรทุกจากไซต์งานก่อสร้าง เบื้องต้นสำรวจพบ 317 แห่ง ที่เป็นไซต์ก่อสร้างขนาดใหญ่ จึงกำชับดูไซต์ก่อสร้างที่มีความเสี่ยงมีการขุดดิน ให้คำนวณน้ำหนักเบื้องต้น เพื่อป้องปราม นำเครื่องชั่งน้ำหนักของกรมการขนส่งทางบก ไปตรวจวัด ส่วนการแก้ปัญหาในระยะกลาง จะมีการชั่งน้ำหนักด้วย AI เพื่อเคลื่อนที่ได้ ป้องกันรถบรรทุกเลี่ยงเส้นทาง

ตอนนี้ขอย้ำว่า การดำเนินคดีกับรถบรรทุกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขนาดที่ตนอยู่ในพื้นที่ บอกให้เขาชั่งน้ำหนักรถ เขายังไม่ได้ทำตาม แต่ถ้ามีตำรวจอยู่ด้วยคงง่ายขึ้น เพราะการพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินคดี ต้องใช้รายละเอียดจำนวนมาก

ตอนนี้ตนได้กำชับไปทางสำนักงานเขต ขอให้ตรวจสอบไซต์งานก่อสร้าง หากพบรถบรรทุกน้ำหนักเกินออกมาจากไซต์งานก่อสร้าง โทษอาจถึงสั่งให้หยุดการก่อสร้าง เป็นว่าจ้างคนทำผิดกฎหมาย ถ้าไม่จ้าง เขาก็คงไม่มาแบกน้ำหนักเกิน

คนขับรถบรรทุกเข้าให้ปากคำ กับเจ้าหน้าที่ที่ตำรวจ
ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ นายบอย คนขับรถบรรทุก ได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม ว่าได้มีการชั่งน้ำหนักมาก่อนหรือไม่ นายบอย ปฏิเสธไม่ตอบคำถาม และพยายามเดินผ่าวงล้อม 4 ออกไป จนนายบอย ทนไม่ไหว ได้ตะโกนต่อว่าสื่อมวลชน ว่าไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ อีก จากนั้นก็เดินขึ้น สน.ไป

นอกจากนี้ มีรายงานว่า พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาสอบปากคำและติดตามคดีที่เกี่ยวข้องกับส่วยรถบรรทุก

ส่วนรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ได้นำมาจอดไว้ที่เกาะกลางใต้ทางรถไฟฟ้า และนำผ้าใบมาปิดด้านบนกระบะไว้ เพื่อรอการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป