จดหมายเมีย แฝงความกลัว ตกอยู่ใต้อำนาจนายเอ็ม

View icon 61
วันที่ 22 ก.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ส่วนกรณีที่ตำรวจไปค้นห้องพักของนางสาวเจษฎา ภรรยาของนายส่องศักดิ์ หรือนายเอ็ม แล้วพบจดหมายระบายความในใจ 2 ฉบับของนางสาวเจษฎานั้น นักสิทธิสตรี ผู้ที่ทำงานช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ก็มองว่าจดหมายทั้ง 2 ฉบับ สะท้อนถึงความกลัว และตกอยู่ใต้อำนาจของสามี

ย้อนไปดูข้อความจดหมายทั้ง 2 ฉบับอีกครั้ง ฉบับแรกเขียนว่า "เหตุการณ์วันนี้ มันทำให้เราเข้าใจแล้วว่า เขาไม่ได้อยากใช้ชีวิตอยู่กับเราเลย เขาถึงทำกับเราได้ขนาดนี้ เราเกือบตาย ตัวชา มือชา แขนขาชา เหมือนคนเป็นตะคริวไปทั้งตัว เขาไม่เคยรัก ไม่เคยสงสารเราเลยจริง ๆ"

ฉบับที่ 2 เขียนว่า "ข้าพเจ้า น.ส.เจษฎา ขอสาบานศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ณ ที่นี้ และที่อยู่ในมือถือของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอสาบานว่า วันนี้ที่ข้าพเจ้ากดตัดสายโทรศัพท์นายส่องศักดิ์ โทรหาข้าพเจ้าสายแรก ตอนที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นเพราะข้าพเจ้าเลื่อนผิด เพราะข้าพเจ้าใช้โทรศัพท์ของลูก ข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งใจตัดสายทิ้งจริง ถ้าหากข้าพเจ้าพูดโกหก หรือผิดคำสาบาน ขอให้ข้าพเจ้ามีอันเป็นไป ถ้ารอดขอให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วยอย่างทุกข์ทรมาน และขอให้ข้าพเจ้าพลัดพรากจากลูกสาวของข้าพเจ้าตลอดไป และขอให้ข้าพเจ้าต้องมีอันต้องติดคุกตาราง ขอให้คำสาบานที่ออกจากคำพูดของข้าพเจ้าเป็นจริง โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ถ้าหากข้าพเจ้าพูดโกหก หรือผิดคำสาบาน สาธุ สาธุ สาธุ"

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ซึ่งเป็นนักสิทธิสตรี ผู้ที่ทำงานช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว กล่าวถึงจดหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ว่า สะท้อนถึงความกลัวของนางสาวเจษฎา และการตกอยู่ใต้อำนาจของ นายส่องศักดิ์ ผู้เป็นสามี เหมือนกำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ที่ต้องจำยอม ซึ่งจากการช่วยเหลือผู้หญิงหลายคนที่ถูกสามีกระทำรุนแรง จะมีลักษณะคล้าย ๆ กันแบบนี้ บางคนอยู่ในอาการกลัวมานาน จนกลายเป็นซึมเศร้า หากสังคมไม่เข้าใจ อาจคิดไปว่าแค่นี้จะกลัวอะไร ทำไมไม่หนีออกมา แต่ต้องเข้าใจผู้หญิงที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยว่า ตัวผู้หญิงเองก็ถือว่าตกอยู่ในอันตรายด้วย จึงไม่กล้าตอบโต้สามี ยิ่งกรณีนี้มีการทำร้ายลูกด้วยจนตาย ยิ่งทำให้นางสาวเจษฎาหวาดกลัว จนตกอยู่ในอำนาจสามี และไม่มีทางออก

นายจะเด็จ บอกด้วยว่า กรณีนี้ไม่ควรซ้ำเติมนางสาวเจษฎา ผู้เป็นภรรยา แต่ในทางกลับกัน รัฐโดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรเข้าไปพูดคุยกับนางสาวเจษฎา เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จะได้เยียวยาจิตใจได้ เพราะจากที่โดนสามีให้นำมีดลนไฟร้อน ๆ มาทาบตัวเอง และซ้อมลูก ๆ จนตายหลายคน เธอน่าจะเจ็บปวดพอสมควร

นอกจากนี้ กลไกรัฐต้องทำงานเชิงรุกให้มากกว่านี้ เพราะรัฐมีอาสาสมัครในชุมชนทุกชุมชน น่าจะมีข้อมูลและจัดการได้ดีกว่านี้ เพราะว่าจากสถิติที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พบสิ่งที่น่ากังวลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คือ มีผู้หญิงถูกสามีฆ่า ถูกแฟนทำร้ายบ่อยมากขึ้น