ทางการฝรั่งเศส และประเทศในยุโรป เริ่มอพยพพลเมืองออกจากไนเจอร์แล้ว หลังเกิดการก่อรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางการประท้วง และการคว่ำบาตรที่ไม่ส่งผลดีต่อประชาชนในประเทศ
ทางการฝรั่งเศส เริ่มทยอยอพยพพลเมืองออกจากไนเจอร์ หลังเกิดการก่อรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยผู้โดยสารกลุ่มแรกจำนวน 262 คน เดินทางกลับถึงกรุงปารีสช่วงเย็นวันอังคาร โดยฝรั่งเศสมีแผนอพยพทั้งหมด 3 เที่ยวบิน เพื่ออพยพพลเมืองราว 600 คน ในไนเจอร์ นอกจากนี้ เยอรมนี อิตาลี และสเปน เตรียมอพยพพลเมืองของตนเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนการก่อรัฐประหารแสดงความไม่พอใจฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคมของประเทศ พากันไปรวมตัวที่สถานทูตฝรั่งเศส ในเมืองนีอาเม พร้อมขว้างปาก้อนหิน และจุดไฟเผาสถานทูตฝรั่งเศส หลังรัฐบาลทหารกล่าวหาว่าฝรั่งเศสวางแผนแทรกแซงทางทหาร เพื่อคืนสถานะให้ประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด บาซูม ที่ถูกยึดอำนาจไป ขณะที่ ทางการฝรั่งเศสได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว
ขณะที่ ประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก หรือ อีโควาส (ECOWAS) ได้ระงับการทำธุรกรรมทางการค้า และการเงินทั้งหมดในไนเจอร์ พร้อมยื่นข้อเสนอให้เวลารัฐบาลทหาร 1 สัปดาห์ ในการคืนอำนาจ และขู่ว่าจะดำเนินการทางทหารกับรัฐบาลทหารไนเจอร์ หากไม่ดำเนินการตามเงื่อนไข
นักวิเคราะห์มองว่า หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป และ อีโควาส ใช้กำลังทางทหารจริง ก็จะส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งทั้งฝรั่งเศส และสหรัฐฯ จะระงับความช่วยเหลือทางการทหาร และมนุษยธรรม มูลค่าหลาย 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อพลเมืองไนเจอร์ ที่พึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างมาก และการคว่ำบาตรอาจทำให้คนกว่า 25 ล้านคน ยากจนลง
