กรมทรัพยากรธรณี ระบุ สาเหตุแผ่นดินไหวสะเทือน กทม. ช่วงเช้า เกิดจากการเคลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนสะกายในเมียนมา ส่งผลให้ชาว กทม. นนทบุรี และ ปทุมธานี รู้สึกได้ ขณะที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย แจ้งพนักงาน Work From Home 1 วันทันที เพื่อเฝ้าระวังเหตุแผ่นดินไหว
จากเหตุแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 6.0 บริเวณอ่าวเบงกอล ประเทศเมียนมา ประชาชนรับรู้แรงสั่นไหว โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง
ล่าสุด (19มิ.ย.66) นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า สถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีสาเหตุเกิดจากการเคลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนสะกายในประเทศเมียนมา ตามแนวระนาบแบบเหลื่อมขวา ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนตัวประมาณ 2 เซนติเมตรต่อปี ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ ประชาชนสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ดังนี้
1) กรุงเทพมหานคร 22 เขต (พื้นที่เขตดุสิต จตุจักร บางเขน สีลม ลาดพร้าว บางพลัด ราชเทวี ทุ่งครุ ปทุมวัน ห้วยขวาง หลักสี่ ดินแดง พญาไท คลองเตย ราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน หนองแขม คลองสาน สาทร บางรัก สวนหลวง คันนายาว)
2) จังหวัดนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด อำเภอเมือง
3) จังหวัดปทุมธานี เทศบาลนครรังสิต
เนื่องจากกรุงเทพมหานคร รองรับด้วยชั้นดินเหนียวอ่อน เมื่อมีแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวจากระยะไกล จะสามารถขยายคลื่นแผ่นดินไหวได้มากถึง 3 เท่า ส่งผลให้ประชาชนบนอาคารสูงในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ได้ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
ทั้งนี้ จากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณราบอ่าวเบงกอลในรอบ 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 – 2566 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 3.1 – 5.4 รวมจำนวนทั้งสิ้น 28 ครั้ง โดยมีขนาดมากกว่า 5.0 จำนวน 3 ครั้ง
ส่วนควันหลงที่เกิดขึ้นสืบเหตุจากเหตุแผ่นดินไหว มีประกาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและผู้ใช้บริการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จึงออกประกาศให้พนักงาน CAAT ทุกท่าน ปฏิบัติงานนอกสถานที่ (Work From Home) วันนี้ เป็นเวลา 1 วัน และในระหว่างปิดศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 อาคารไอทีสแควร์ชั่วคราว ในวันที่ 19 มิ.ย. 2566 หากบุคคลภายนอกมีความประสงค์ติดต่อส่วนงานต่าง ๆ ของ CAAT สามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดที่แจ้งไว้
