ชาติพัฒนากล้า ไร้ปัญหา ไม่ได้ร่วมรัฐบาล

View icon 106
วันที่ 20 พ.ค. 2566
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - พรรคก้าวไกล ยืนหยัดจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงสนับสนุน 313 เสียงจาก 8 พรรคการเมืองขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้า รับถูกปัดไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาลแต่ ไม่มีปัญหา เพราะพรรคพร้อมทำงานทั้งบทบาทฝ่ายค้าน และรัฐบาล

ชาติพัฒนากล้า ไร้ปัญหา ไม่ได้ร่วมรัฐบาล
สายวันนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดแถลงข่าวที่จังหวัดนครราชสีมา ยืนยันว่า พรรคชาติพัฒนากล้าไม่มีปัญหา หลังพรรคก้าวไกล ล้มดีลเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาล หลังตกลงจับมือร่วมกัน 8 พรรค ได้เสียง 313 เสียงไปก่อนหน้านี้

โดย นายสุวัจน์ เปิดใจว่า หลังได้การติดต่อทาบทามเชิญเข้าร่วมรัฐบาลจากพรรคก้าวไกล ก็ได้ตอบตกลง รับในหลักการและเตรียมพร้อมร่วมจัดทำเอ็มโอยูพรรค แต่เมื่อรับทราบแถลงการณ์พรรคก้าวไกลยุติ การเจรจาหลังเกิดเสียงคัดค้านก็ไม่มีปัญหา ไม่น้อยใจ และพร้อมการทำงานเพื่อประเทศต่อไปไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล อีกทั้งยังขอบคุณที่พรรคก้าวไกลให้เกียรติ และขอโทษที่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ 

ก้าวไกล ติวเข้ม ว่าที่ สส. ยันเป็นรัฐบาล 313 เสียง
ขณะที่วันที่ 2 ของการสัมมนา ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล ที่ยกทัพไปจัดกันที่จังหวัดชลบุรี เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ และว่าที่ สส.หน้าใหม่มีความพร้อมที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนทั้งหมดจะร่วมกันถอดบทเรียนการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกในสนามเลือกตั้งสมัยหน้า

และในวันพรุ่งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนชาวชลบุรี และระยอง เหมือนกับที่ขึ้นรถแห่ขอบคุณคะแนนเสียงของชาวจังหวัดนนทบุรี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้จัดการตั้งรัฐบาล บอกว่า ณ เวลานี้ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวบรวมเสียง สส.ได้ 313 เสียงจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลที่เปิดตัวรับประทานอาหาร และแถลงข่าวร่วมกัน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล เพื่อไทย ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย ประชาชาติ เป็นธรรม เพื่อไทรวมพลังและพรรคพลังสังคมใหม่ ถือว่า เพียงพอมั่นคงแล้ว

ซึ่งการออกมายืนยันครั้งนี้ ก็เป็นการสร้างความชัดเจนว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกลนั้น ไม่มี พรรคชาติพัฒนากล้า และ พรรคใหม่ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และภารกิจที่พรรคก้าวไกลต้องเร่งดำเนินการ คือ การเดินหน้าพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. เพื่อทำความเข้าใจ ข้อห่วงกังวล และนโยบายพรรค และเอ็มโอยูของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างจัดทำ

ขณะที่ขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้งในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ตามกรอบของกฎหมายจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งโดยเร็ว หรือ ภายใน 60 วันหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งในระหว่างนี้ เป็นช่วงของการสืบสวน ไต่สวน ข้อร้องเรียนการเลือกตั้งที่มียื่นร้องเรียนเข้ามา 183 เรื่อง ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอน รวมถึงเรื่องร้องเรียนการถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ก็อยู่ในขั้นตอนหลังรับเรื่องร้องเรียน แต่ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้ว่ากรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าวได้เมื่อใด เนื่องจากทุกเรื่องจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ตั้งแต่ตรวจสอบ ไต่สวน และการเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต.