คดีประวัติศาสตร์ "บิ๊กโจ๊ก" ปิดคดี "แอม" วางยาฆ่าต่อเนื่อง 8 ปี ตาย 14 รอด 1

View icon 594
วันที่ 30 มิ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คดีประวัติศาสตร์ “บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดี "แอม" วางยาฆ่าเจ้าหนี้  เสียชีวิต 14 รอด 1 วางแผนฆ่าต่อเนื่อง 8 ปี วางยาพิษให้เสียชีวิตในลักษณะเหมือนการเจ็บป่วย ทำให้ญาติไม่ติดใจสงสัย

แอมวางยา วันนี้ (30 มิ.ย.66) ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวปิดคดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด โดยคดีแรกเกิดในปี 2558 และเกิดเหตุต่อเนื่องปี 2566 มีผู้เสียชีวิต 14 คน รอดชีวิต 1 คน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีความเกี่ยวพันกับแอม ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และวงแชร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำแพทย์ผู้ชันสูตร ซึ่งสถาบันนิติเวชวิทยาได้ตรวจสอบเลือดและสารคัดหลั่งในกระเพาะจากศพเหยื่อคนสุดท้ายที่ จ.ราชบุรี พบไซยาไนด์ในเนื้อตับ รวมพยานกว่า 900 ปาก พยานเอกสาร 26,500 แผ่น ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานนานกว่า 3 เดือน ถือเป็นคดีที่ระดมชุดสืบสวนสอบสวนมากที่สุด จนสามารถสรุปสำนวนดำเนินคดีกับนางสรารัตน์ 15 คดี ประกอบด้วย ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสรุปสำนวน ดำเนินคดีกับบุคคลใกล้ชิดนางสรารัตน์ อีก 2 คน คือ พันตำรวจโท อดีตสามีแอมคนล่าสุด และทนายความของแอม ดำเนินคดีฐาน เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด

”คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ผู้ต้องหาวางแผนฆาตกรรมต่อเนื่องยาวนานกว่า 8 ปี โดยวางยาพิษให้เหยื่อกินจนเสียชีวิตในลักษณะเหมือนการเจ็บป่วย ด้วยภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เพื่อให้ญาติไม่มีข้อสงสัย หวังเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หรือล้างหนี้ที่เคยยืมกันมา”