เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจกองปราบ บุกค้น 16 จุด เครือข่ายสารวัตรซัว จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย หนึ่งในนั้น เป็นคีย์แมนดูแลโปรแกรมเมอร์และคุมเงินเว็บพนัน พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มกว่า 480 ล้านบาท พบสารวัตรซัว ขายแฟรนไชส์เว็บพนันให้ลูกค้าจำนวนมาก
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เปิดปฏิบัติการ ทลายเครือข่ายอาณาจักรซัว นำกำลังลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายกว่า 16 จุด ใน 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ลำปาง, อ่างทอง, มหาสารคาม และ มุกดาหาร สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ นายธีรภัทร์, นายธนณัฐ และนางสาวธีรพรรณ ตามหมายจับความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันฯ, สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และ ร่วมกันฟอกเงิน
โดยนายธนณัฐ ถือเป็น 1 ในคีย์แมน คนสำคัญระดับ 2 ดูแลเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ และเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินมาจากลูกค้าก่อนรวบรวมส่งต่อให้กับกลุ่มขบวนการระดับบน จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารของ นายธนณัฐ พบเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังยึดทรัพย์สินจากผู้ต้องหากว่า 170 รายการ รวมมูลค่ากว่า 480 ล้านบาท ประกอบด้วย รถยนต์หรู 12 คัน, รถยนต์ 2 คัน มูลค่ารวม 46 ล้านบาท โฉนดที่ดินรวมกว่า 56 ไร่ มูลค่ารวม 4 ร้อยกว่าล้านบาท เงินสด 1 ล้านกว่าบาท ตุ๊กตาแบร์บริค 3 ตัว โมเดลการ์ตูน ประมาณ 100 ตัว ราคาประมาณ 500,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โทรศัพท์ 6 เครื่อง Notebook 3 เครื่อง และ CPU 2 เครื่อง
ต่อมา ตำรวจแถลงการตรวจค้นจับกุมที่กองปราบปราม โดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ไม่หนักใจ เพราะมีพยานหลักฐานเพียงพอ อีกทั้งจากแนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว ในลักษณะของการใช้บัญชีรับโอนเงินเว็บพนันและจัดการเรื่องเงิน
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปรามกล่าวว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายเว็บพนันของสารวัตรซัว มาแล้ว 2 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดี 6 ราย ยึดทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ก็ยังคงเร่งขยายผลกวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายผลหาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำผิดตาม เพราะเชื่อว่ากลุ่มขบวนการนี้ ทำกันมาเป็นระยะเวลานาน จนเป็นองค์กรอาชญากรรม ที่ขยายตัวเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว เป็นผู้ควบคุมสั่งการในเครือข่ายทุกขั้นตอน รวมถึงเปิดบัญชี และรับโอนเงินจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ก่อนที่จะถ่ายเทโอนเงินที่ได้จากผู้เล่นไปยังบัญชีของกลุ่มพนักงานในเครือข่ายด้วยจากนั้นถ่ายเทโอนเงินที่ได้จากผลกำไร ไปยังบัญชีรับโอนเงิน ซึ่งเป็นบัญชีของกลุ่มที่ทำหน้าที่กรรมการหรือผู้ถือหุ้นในเครือบริษัทของสารวัตรซัว เชื่อว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ ตัวการ หรือผู้ได้รับผลประโยชน์จากการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ โดยมี 4 คีย์แมนหลักผู้อยู่เบื้องหลัง ถือหุ้นใน บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าสารวัตรซัว ขายแฟรนไชส์ระบบพนันออนไลน์ให้กับลูกค้าจำนวนมาก มีลักษณะจัดตั้งในรูปแบบบริษัท สนับสนุนในการทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ จำนวน 9 หมาย และขออนุมัติออกหมายค้น จำนวน 16 หมาย เพื่อเก็บพยานหลักฐานสำคัญและตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด นำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว ที่จับกุมได้อีก 3 ราย คงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงสารวัตรซัวด้วย คาดว่าน่าจะกบดานอยู่ต่างประเทศ
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบัญชาการสอบสวนกลาง กล่าวว่า เครือข่ายสารวัตรซัว จัดอยู่ในระดับมาสเตอร์แฟรนไชส์ เพราะฉะนั้นข้อมูลพยานหลักฐาน พยานบุคคล จึงมีจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่ตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า จะไม่หยุดเพียงแค่นี้ และจะยังคงดำเนินการขยายผลต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาจะมีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 31 ราย ยึดทรัพย์กว่า 2,000 ล้านแล้วก็ตาม
