นักธุรกิจร้องถูกนายก อบต. บุกขนของ แจ้งตร.บอกแค่คดีแพ่ง

View icon 38
วันที่ 2 พ.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มใหญ่ นักธุรกิจ ร้องขอความเป็นธรรม ถูกนายก อบต. กับพวก บุกรุกเข้ามาขนของในบ้านที่ขายให้ตนแล้ว แถมยังจัดเลี้ยงปาร์ตี้เยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน พอไปแจ้งความตำรวจกลับบอกว่าเป็นคดีแพ่ง และเรื่องก็เงียบหายไป

นายวรชาติ พุกโฉมงาม อายุ 52 ปี นักธุรกิจเครื่องหนัง เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูก นายก อบต.คนหนึ่ง บุกยึดบ้านที่ขายให้แล้ว และขโมยของในบ้านออกไปหมด พอไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเข้าข่ายบุกรุกและลักทรัพย์ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพนักงานสอบสวนก็ถูกเปลี่ยนตัวจากคดีนี้

นายวรชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 มี นายฐิติกร นายหน้าขายที่ดินติดต่อมาว่ามีนายก อบต. คนหนึ่งใน จังหวัดชุมพร อยากซื้อที่ดินของตนที่อยู่ติดทะเล เนื้อที่เกือบ 6 ไร่ ในราคา 10,674,000 บาท แต่จะเอาบ้านติดทะเลมาเทิร์นให้ในราคา 2,500,000 บาท ตนจึงขอดูรูปบ้านและโฉนด เพื่อตรวจสอบว่าติดธนาคารหรือไม่ หลังจากได้ดูรูปพบว่าบ้านพร้อมที่ดินไม่ติดธนาคาร จึงตอบตกลงและนัดไปโอนบ้านวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ที่จังหวัดชุมพร พอถึงวันนัด ตนได้พาทนายความ และนายหน้า ไปที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อทำการโอนบ้านหลังนี้ให้ตามที่ตกลงกันไว้

พอไปถึงได้พบกับนายก อบต. และลูกสาว ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน ตนจึงขอให้พาไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อโอนบ้าน แต่ทาง นายก อบต. บอกว่า ขอโอนให้ในวันที่ 25 ธันวาคม 2565 ได้หรือไม่ และจะจ่ายค่าที่ดินที่เหลือทั้งหมด 8,174,000 บาท ให้ แต่ตนเองไม่ยอม เพราะได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะต้องโอนภายในวันนี้ ทางลูกสาว นายก อบต. จึงทำสัญญายกบ้านให้ตน ในสัญญาระบุว่า "ให้ไปโอนบ้านในวันที่ 25 ธันวาคม 2565" โดยมีการเซ็นสัญญาอย่างถูกต้อง จากนั้นตนได้จ่ายเงินค่านายหน้าให้กับนายฐิติกร ไป 75,000 บาท หลังจากตนได้บ้านมาแล้ว จึงจ้าง นายฐิติกร ให้หาช่างมารีโนเวตบ้าน โดยใช้งบทั้งหมด 1,200,000 บาท

ต่อมาประมาณกลางเดือนธันวาคม 2565 นายก อบต. ติดต่อมาขอขยายเวลาในการจ่ายเงินส่วนที่เหลือ วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ตนจึงเดินทางไปพบนายก อบต. ที่จังหวัดชุมพร เพื่อถามสาเหตุที่เลื่อนนัด นายก อบต.อ้างว่า ธุรกิจส่งออกที่ทำไว้มีปัญหา ยังไม่ได้เงินตามที่นัดหมาย และเสนอมาว่าจะให้เงินตน 500,000 บาทมาก่อน และในวันที่ 5 มกราคม 2566 จะจ่ายให้อีก 500,000 บาท จากนั้นวันที่ 31 มกราคม 2566 จะจ่ายให้อีก 3,000,000 บาท ตนจึงยอมตกลง

พอถึงวันที่ 5 มกราคม 2566 นายก อบต.ก็เงียบหายไป วันที่ 6 มกราคม 2566 ตนจึงไลน์ไปถามถึงเงิน 500,000 บาท ที่นัดกันไว้ แต่นายก อบต. อ่านข้อความแล้วไม่ตอบ ตนจึงให้ทนายโทรไปถาม ได้รับคำตอบว่า ยังไม่มีเงินให้ ขอเลื่อนไปก่อน พอวันที่ 13 สิงหาคม 2566 ตนทวงถามว่าเมื่อไหร่จะมาโอนบ้านให้ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถโอนได้เนื่องจากบ้านติดธนาคารอยู่ ตนจึงแปลกใจว่า มาหลอกตนตั้งแต่แรกทำไม

ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ตนเอาป้ายขายที่ดินผืนนี้ไปติดในที่ดินที่จะขาย แล้วอีก 2 วัน ก็ปลดป้ายออก เพื่อกระตุ้นให้นายก อบต. หาเงินมาจ่ายส่วนที่เหลือ แต่ปรากฏว่า นายก อบต. เอาภาพที่ตนติดป้ายขายที่ดินไปฟ้องเรียกค่าเสียหายกับตน 12 ล้านบาท กล่าวหาว่าตนผิดสัญญา

โดยทนายที่ตนเองพาไปทำสัญญาซื้อขายด้วย กลับเปลี่ยนไปเป็นทนายให้กับ นายก อบต. มาฟ้องตน ไม่แน่ใจว่าจะผิดมารยาททนายความหรือไม่ คดีนี้ศาลตัดสินให้ตนจ่ายเงินคืนโจทก์จำนวน 650,000 บาท

ต่อมาวันที่ 7-10 ตุลาคม 2566 นายก อบต. กับ นายฐิติกร ที่เป็นนายหน้า ได้พาคนบุกรุกเข้าไปในบ้านที่ขายให้ตนเองแล้ว และไปขนทรัพย์สินของตนในบ้านออกไปทั้งหมด พร้อมถอดกล้องวงจรปิดออกทุกตัว และยังเข้ามาจัดงานเลี้ยงในบ้านอีก วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ตนจึงไปแจ้งความข้อหาบุกรุกไว้ที่ สภ.ปากตะโก จังหวัดชุมพร ร้อยเวรรับเรื่อง และพาตนมาชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำเรียบร้อย ต่อมาร้อยเวรคนดังกล่าวถูกเปลี่ยนตัวไม่ให้ทำคดีนี้แล้ว พอร้อยเวรคนใหม่เข้ามาทำคดี กลับบอกตนเองว่าเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป

นายวรชาติ ยังบอกอีกว่า มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่โทรมาเจรจาขอให้ตนจบเรื่อง บอกจะหาคนมาซื้อที่ดินแทนให้ พยายามจะเปลี่ยนผู้ขัดแย้งกับตน แต่ตนไม่ยอม

นายวรชาติ บอกว่า ตอนนี้ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงมาขอความเป็นธรรมให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ เนื่องจากนายก อบต. คนนี้ มีอิทธิพลในพื้นที่ และมีลูกเขยเป็นตำรวจอีกด้วย