ชัยธวัช เผย ขอศาลรธน. ยืดเวลาทำคำชี้แจงยุบพรรคก้าวไกลเพิ่ม 30 วัน อ้างเหตุจำเป็นแสวงหาข้อเท็จจริง เชื่อสถานการณ์งูเห่าไม่แย่เหมือนยุบอนาคตใหม่ วอนลูกพรรคอย่าสร้างบรรยากาศ ล่าแม่มด
วันนี้ (24 เม.ย.67) นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วานนี้ (23 เม.ย.) ได้มอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรคก้าวไกล ไปยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาขยายกรอบเวลาการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรครอบที่ 2 อีก 30 วัน หลังก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญอนุมัติขยายส่งคำชี้แจงไป 15 วัน หรือให้ส่งภายในวันที่ 3 พ.ค.นี้ โดยให้เหตุผลว่าระยะเวลาดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเก่า ย้ำถึงความจำเป็นในการแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อเสนอให้ศาลเปิดการไต่สวนอย่างถึงที่สุด เนื่องจากน้ำหนักบทลงโทษต่างจากครั้งที่ผ่านมา ที่มีคำวินิจฉัยตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ
นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้กระทบกับพรรคอย่างร้ายแรง ดังนั้น การเขียนคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต้องมีความละเอียด จำเป็นต้องแสวงหาแง่มุม และข้อเท็จจริงมาโต้แย้งอย่างมากที่สุด ซึ่งกระบวนการยุติธรรมที่ดี ศาลรัฐธรรมนูญควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมีสิทธิต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะคดีที่กล่าวหาเราร้ายแรงมากถึงขั้นยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค
และจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องให้ยุติการกระทำเกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น ไม่น่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เพียงพอที่ใช้กล่าวหาให้ยุบพรรคการเมือง ขณะเดียวกันพยานที่จะเสนอให้ศาลไต่สวนก็ต้องใช้ระยะเวลาพูดคุย ซึ่งที่ผ่านมาติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงคิดว่าศาลควรให้โอกาสเพิ่มเติม
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตหรือฟันธงว่ามีการยุบพรรคก้าวไกล และจะทำให้ สส. ประมาณ 30 คน ย้ายพรรคข้ามขั้วนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า คิดว่าสถานการณ์ของผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลรุ่นนี้ ไม่แย่เท่ากับตอนยุบพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่าทุกคนเข้าใจดีถึงความคาดหวังของประชาชน และเสียงความไว้วางใจที่ได้รับอย่างล้นหลาม
แต่ก็ได้ย้ำถึงการทำงานที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยได้แจ้ง สส. ในพรรคว่าอย่าสร้างบรรยากาศที่จะสร้างความไม่ไว้วางใจ หรือว่าล่าแม่มดกัน ซึ่งประเด็นสำคัญตอนนี้คือการพูดคุยถึงทิศทางการทำงานของพรรค และเป้าหมายที่ชัดเจนหลังจากนี้ เพื่อทำให้พรรคพัฒนาและทำงานตอบสนองกับประชาชน ที่สำคัญการประชุมใหญ่และการสัมมนาของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา มีการพูดคุยถึงแนวทางการต่อสู้คดีและความเป็นไปได้ทางการเมืองที่จะไม่ถูกยุบพรรค
