บิ๊กโจ๊ก กระทำผิดจริง เส้นเงินโยงเว็บพนันฯ

View icon 271
วันที่ 5 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คณะกรรมการสอบ 2 บิ๊กตำรวจพบข้อมูล “บิ๊กโจ๊ก”กระทำผิดจริง เส้นเงินโยงเว็บพนันฯ ส่วนฝั่ง “บิ๊กต่อ” เตรียมเรียก “ทนายตั้ม” เข้าแจง 10 เม.ย.นี้ หากพบผิดฟันไม่เลี้ยง

วันนี้ ( 5 เม.ย.67) พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง 1 ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ เกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบเป็นครั้งแรกในวันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกล่าวว่า ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่าย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.คร. และฝ่ายที่กล่าวหา พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ามาสอบถามเกือบ 30 คน เช่น พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผช.ผบ.ตร. , พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์, พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย, พ.ต.อ. ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.สส.ภ.จว. สงขลา และทีมทนายความของ บิ๊กโจ๊ก เข้าให้ข้อมูล และให้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 30 เมษายนนี้  พร้อมจะให้ฝั่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ส่งข้อมูลเอกสารที่เหลือทั้งหมดมาให้คณะกรรมการภายในวัน 20 เมษายนนี้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เกือบ 30 คน ทางคณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล เชื่อว่าพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง โดยเป็นการฟอกเงิน ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้า และเชื่อมโยงมายังพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จึงเชื่อว่าพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ รู้และได้รับประโยชน์บางส่วนจากการกระทำดังกล่าว แต่ยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก

พล.ต.อ. วินัย ยืนยันว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการนั้น มีผลออกมาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับจาก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ โดยหากข้อมูลฝั่งพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว จะทยอยส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยไม่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงฝั่ง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์เนื่องจากหากไม่ทันกำหนดภายใน 60 วันก็สามารถขยายระยะเวลาต่อไปได้ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนที่มองว่าทางการตรวจสอบฝ่ายพล.ต.อ. สุรเชษฐ์แล้วเสร็จอย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลานานกว่า 7 เดือน อย่างไรก็ตามคณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากบุคคลที่เกี่ยวข้องเอง ไม่ได้นำข้อมูลจากพนักงานสอบสวนมาอ้างอิง

ส่วนกระบวนการตรวจสอบฝั่งของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ นั้น ในพุธวันที่ 10 เมษายนนี้ เวลา 10:30 น. จะเชิญนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เข้าให้ข้อมูลที่บ้านมนังคศิลา หลังจากที่คณะทำงานได้เชิญมาหลายครั้ง แต่ทนายตั้มอ้างว่าติดภารกิจเดินสายร้องเรียน ซึ่งจะต้องสอบถามทนายตั้มเกี่ยวกับที่มาของเอกสารที่ได้นำไปร้องทุกข์กล่าวโทษ บิ๊กต่อ และภรรยา ที่ สน.เตาปูน รวมทั้งที่มาของพยานบุคคล และเส้นทางการเงินอ้างว่ามีความเชื่อมโยง กับบิ๊กต่อ และภรรยา

ยืนยันคณะกรรมการชุดนี้ มีอำนาจในการตรวจสอบทั้งข้าราชการ และบุคคลทั่วไปที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในชั้นศาลในอนาคต แต่หากภายหลังเกิดกรณีศาลมีคำพิพากษาว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งขัดกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ จะถือเป็นปัญหาหรือไม่นั้น พล.ต.อ. วินัย กล่าวว่าเป็นเรื่องของอนาคต  เพราะแม้ว่าศาลจะชี้ว่าไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่ผิด เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน หากอนาคตพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จะฟ้องกลับคณะกรรมการชุดนี้ก็ไม่กังวล และรู้สึกยินดี  และยังกล่าวทิ้งท้ายว่าคณะกรรมการชุดนี้จะพยายามฟื้นความศรัทธา ให้กับองค์กรตำรวจด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมา