เวลา 17.06 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธทศพลญาณ พระประธานพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้นลงรักปิดทอง เรียกว่า "หลวงพ่อโต" หรือ "หลวงพ่อวัดสามจีน" และทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะรูปเหมือนพระวิสุทธาธิบดี อดีตเจ้าอาวาส ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยมีพระราชดำรัสคราวเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธทศพลญาณ ว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ทรงติดธนบัตรที่ผ้าป่าทรัพย์ระย้า เพื่อนำปัจจัยไปบำรุงพระมหามณฑป ทรงวางผ้าไตรถวายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ พระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ใหญ่ที่สุดในโลก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญมาไว้ที่วัดพระยาไกร เมื่อการก่อสร้างพระอุโบสถ และพระวิหารหลังใหม่ของวัดไตรมิตรวิทยารามแล้วเสร็จ จึงได้อัญเชิญขึ้น ประดิษฐานระหว่างการเคลื่อนย้ายปูนที่หุ้มองค์พระกระเทาะออกทำให้เห็นองค์พระข้างในเป็นทองคำ
โอกาสนี้ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นทอง สำหรับหล่อพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (จำลอง) เพื่อเชิญไปประดิษฐานภายในอุโบสถ วัดวังปลาสร้อย จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้จัดกิจกรรมทำบุญปีใหม่จีนด้วย
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) ทรงเปิดงาน "เทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2567" โดยสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร และชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมกันจัดขึ้น ในโอกาสครบรอบ 49 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก
ไทยและจีนเริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาโดยตลอด ถือเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่พิเศษ นำเสนอกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงการนำเสนอเอกลักษณ์ การสืบทอดวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนจากรุ่นสู่รุ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีนในกรุงเทพมหานคร ที่มีความหลากหลาย และน่าสนใจ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญ และกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่ง
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงทางวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และการแสดงจากประเทศไทย ได้แก่ การแสดงชุด "ถงเจีย ระบำสร้อยข้อมือ" จากเขตปกครองตนเองซีจ้าง สาธารณรัฐประชาชนจีน, การแสดงชุด (SAWASDEE) สยามเมืองฟ้าอมร เรืองรองทั่วปฐวี จากประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การแสดงเชิดมังกรทอง
งานตรุษจีนเยาวราช ประจำปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด "เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง" ระหว่างวันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนเก่าแก่และมีความสำคัญของไทย นอกจากนี้ มีอุโมงค์มังกรทองที่ประดับและตกแต่งอย่างอลังการ พร้อมจัดการแสดง Projection Mapping ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีน รวมถึงกิจกรรมเสริมมงคลชีวิตรับปีมังกรทอง กับ 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร ศิลปะสมัยราชวงศ์ถัง อายุกว่า 900 ปี แกะสลักจากไม้เนื้อหอมที่อัญเชิญมาจากจีน เชื่อว่าหากได้สักการะจะหายป่วย สุขภาพแข็งแรง
มูลนิธิเทียนฟ้า เป็นมูลนิธิแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งขึ้นเพื่อสงเคราะห์ผู้ป่วยยากไร้ให้ได้รับการรักษาพยาบาล ทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน โดยแผนกแพทย์แผนจีน ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคและจ่ายยาจีนโดยไม่คิดมูลค่า ส่วนแผนกแพทย์แผนปัจจุบันให้บริการตรวจรักษา โดยเก็บค่ารักษาในราคาที่ประหยัด ให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมทั้งมีโครงการหน่วยไตเทียมอัจฉริยะ และการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่สวนลุมพินี ทุกวันอาทิตย์
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการออกร้านของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ร้านภูฟ้า นำสินค้าจากภาพวาดฝีพระหัตถ์ "มังกร" และลายพระหัตถ์ภาษาจีน ที่ได้พระราชทานพรเป็นพิเศษว่า "หลง เหนียน หรู อี้" หมายถึงปีมังกรให้ได้ดังประสงค์ ผู้ได้รับพรพระราชทานปีนี้จะทำให้มีความสุขสมหวัง ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ และสมประสงค์ตามพรที่พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มมงคล "มังกรสมประสงค์" ที่ผสมผสานความเป็นมงคล สีทอง ตัวแทนของความมั่งคั่ง ร่ำรวย จากน้ำสัปปะรด ผลไม้มงคล ที่เปรียบได้กับคนที่มีความรู้ มีปัญญารอบด้าน หูตากว้างไกล สีแดง สีแห่งโชคลาภ โชคดี พูนผล ผสมผสานกับโซดาซ่า ที่เปรียบได้กับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สดใส รวมกันเป็นเมนูมงคล
โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงผัดหมี่มงคล ปีมังกรทอง พระราชทานเป็นสิริมงคล ที่บูธร้านภัทรพัฒน์ มูลนิธิชัยพัฒนา วัตถุดิบของเมนู ผัดหมี่มงคล ปีมังกรทอง ที่ทรงใช้ ได้แก่ เส้นหมี่ซั่ว แฮม กะหล่ำปลี เห็ดหอม และน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ หมี่มงคล หรือหมี่ซั่ว ในภาษาจีนเรียกว่า ฉางโซ่วเมี่ยน ฉางโซ่ว แปลว่า ยาวต่อเนื่อง สื่อถึงอายุ และเมี่ยน คือ เส้นบะหมี่ ผัดหมี่จึงเป็นอาหารมงคลยอดนิยมในเทศกาลสำคัญของจีน ใช้เป็นอาหารไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และยังเป็นอาหารมงคลในวันเกิดด้วย สำหรับน้ำมันที่ใช้ผัดนั้น ทรงใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย หรือน้ำมันเมล็ดชา ตราภัทรพัฒน์ ของมูลนิธิชัยพัฒนา ผลิตผลจากต้นชาน้ำมันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนานำมาปลูกที่จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาป่าเสื่อมโทรม และสร้างรายได้แก่ราษฎร รวมทั้งช่วยป้องกันการกัดเซาะพังทลายของหน้าดินบริเวณเชิงเขา น้ำมันเมล็ดคามีเลียนี้ มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง มีโอเมก้าครบ 3 ชนิด ทั้ง โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 เพิ่มไขมันดี ลดไขมันไม่ดี ไม่มีไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ทำให้สามารถปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งการผัดหรือทอดที่ต้องใช้ความร้อนสูง ใช้ประกอบน้ำสลัด และยังใช้เป็นซอสหมักเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ มีร้านจำหน่ายสินค้าจากร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, ร้านมูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ, ร้านมูลนิธิรามาธิบดี, ร้านฝ่ายวัฒนธรรมสถานฑูตจีน, และนิทรรศการแสดงผลงานการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-จีน ตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนินผ่าน ชาวไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยว ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ต่างปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงเป็นขวัญเป็นกำลังใจ เป็นสิริมงคลแก่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนตลอดมา
