จับไม้ประดู่ 6 ท่อนคาบ้านหนุ่มเชียงดาววัย 47 ปี อ้างตัดมาต่อเติมบ้าน นานหลายเดือนแล้ว จนท.คาดมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง
เชียงดาวเจอตัดไม้ประดู่ วันนี้(30 มิ.ย.2566) นายอานนท์ กุลนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับทีมข่าว 7HD ว่า วานนี้(29 มิถุนายน 2566) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด ชป.13 บก.คปส.1 (จุดตรวจปางมะกง), เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเชียงดาว, หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บ้านปางมะเยา หมู่ 4 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว และกองบังคับการควบคุมสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติดที่ 1 กองกำลังผาเมือง ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบการลักลอบตัดไม้
โดยรายงานทราบว่าพบการลักลอบตัดไม้ และนำมาซุกซ่อนไว้ บริเวณห้วยต้นยาง หมู่ 4 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ขณะออกตรวจมาถึงบริเวณดังกล่าว พบมีโซ่ล็อกกุญแจทางเข้าพื้นที่ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงประสานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบ้านปางมะเยา ช่วยนำตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งขณะตรวจพื้นที่ พบมีไม้ท่อนซุกซ่อนไว้ข้างเพิงพักในสวน จำนวน 2 กอง โดยกองที่ 1 มีจำนวน 3 ท่อน มีกิ่งไม้มะม่วงปกคลุม และกองที่ 2 มีจำนวน 3 ท่อน มีผ้าใบสีดำปกคลุมไว้ พบว่าเป็นไม้ประดู่ท่อน จำนวน 6 ท่อน
เมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ พบว่าเป็นชื่อนายอะเลผะ อายุ 47 ปี เป็นผู้แจ้งการครอบครองที่ดิน จึงให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปางมะเยา เชิญเจ้าของพื้นที่เข้าพบคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการสอบถามนายอะเลผะ ได้ให้ถ้อยคำว่าไม้ประดู่ท่อนดังกล่าว เป็นไม้ที่ทำการตัดมาจากพื้นที่ป่าข้างเคียง ซึ่งได้ตัดหลายเดือนแล้ว เพื่อจะนำมาต่อเติมบ้านพักอาศัย
นายอานนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ระบุว่า จากการตรวจสอบพบไม้ประดู่ขนาดใหญ่ แต่ชายรายนี้กลับอ้างว่าตัดมาต่อเติมบ้าน และทำเองด้วยตัวคนเดียว แต่ลักษณะของกลางที่พบเชื่อว่าเป็นไปได้ยาก และคาดว่าจะมีนายทุนอยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการพิจารณาเบื้องต้น พบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ จึงร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ท่อน จำนวน 6 ท่อน ปริมาตร 4.82 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงิน 168,700 บาท ตามบัญชีไม้ของกลางลำดับที่ 87 พร้อมแจ้งสิทธิให้นายอะเลผะทราบ ก่อนนำเรื่องราวดังกล่าว ร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับนายอะเลผะ ตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จะขยายผลถึงที่มาที่ไปของขบวนการลักลอบตัดไม้มีค่า (ไม้ประดู่) ดังกล่าวต่อไป
