ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำคุณยาย อายุ 78 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา นานถึง 2 วัน หลังจากตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ เข้ามาตีสนิทผ่านเฟซบุ๊ก แล้วหลอกให้โอนเงิน ทำให้สูญเงินเก็บมาทั้งชีวิต เกือบ 3 ล้านบาท
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ถึงกับอึ้ง เมื่อ ยายสมจิตร อายุ 78 ปี พร้อมหลานสาว อายุ 31 ปี หอบเอกสาร เป็นสลิปการโอนเงินจำนวนมาก มาเป็นหลักฐาน เข้าแจ้งความหลังถูกขบวนการตุ๋นเงิน โดยใช้บัญชีม้า มาหลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มโอนครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566 มาจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2567 สูญเงินไป 2,900,000 บาท
ยายสมจิตร เล่าว่า ปีที่แล้วเล่นเฟซบุ๊ก จู่ ๆ ก็มีชาวต่างชาติ อ้างเป็นทหาร ทักมาขอความช่วยเหลือ บอกว่า ต้องการนำกล่องที่บรรจุเงินสด เป็นเงินสกุลดอลลาร์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยราว ๆ 53 ล้านบาท เข้ามาในประเทศไทย แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย ด้านภาษีนำเข้า หากคุณยายช่วย จะให้เงินคืนยาย 7 ล้านบาท พร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ซึ่งยายเคยไปที่ธนาคารจะโอนเงิน พนักงานธนาคาร เคยเตือนแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพ แต่ยายไม่เชื่อ ไปให้ร้านชำ ร้านสะดวกซื้อโอนให้ ไม่คิดว่าจะถูกหลอก เงินที่โอนไป จำนวน 38 ครั้ง เกือบ 3 ล้านบาท เป็นเงินเก็บทั้งชีวิต ซึ่งเป็นรายได้จากทำสวนมะม่วงส่งออก, เก็บค่าเช่าทำการเกษตร และค่าเช่าบ้าน ซึ่งสามีที่เสียชีวิตทิ้งไว้ให้
พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนคุณยาย นานถึง 2 วัน เนื่องจากมีรายละเอียดทางคดี และหลักฐานในการโอนเงินไปยังบัญชีม้าหลายบัญชี และจำนวนหลายครั้ง พร้อมทั้งอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีม้า
เบื้องต้น ชุดสืบสวนเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าของบัญชีม้า จำนวน 5 คน ที่เป็นบัญชีปลายทางที่มีการโอนเงินไป ซึ่งทราบชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ เรียบร้อยแล้ว
กรณีมิจฉาชีพหลอกผู้สูงอายุ นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาศ โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า บุตรหลานต้องคอยสอดส่องดูแล ไม่ใช่เพียงส่งข้อความไปบอก ไปเตือน แต่ควรพูดคุยกันต่อหน้า หรือยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากผู้สูงอายุเกิดเผลอพลาดเป็นเหยื่อ ไม่ควรไปซ้ำเติม เพราะอาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกน้อยใจ
ข้อมูลจากกองบังคับการปราบปราม และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย โพสต์เตือนภัย อย่ากดลิงก์ SMS ที่ไม่รู้จัก อาจเสียเงินได้ง่าย ๆ ไม่โหลดแอปพลิเคชันเถื่อน และหากไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงเข้าเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคย และก่อนกดยืนยันให้ตรวจสอบให้ดีก่อน
