พระบังคับวิดีโอคอลอาบน้ำ แคปภาพอวดเพื่อน

View icon 85
วันที่ 15 พ.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เป็นอีกปัญหาสังคมขณะนี้ คือ พระที่เข้าไปสร้างความเสื่อมเสียพระพุทธศาสนา ล่าสุด หญิงสาวออกมาร้องขอความช่วยเหลือ ถูกแฟนหนุ่มที่บวชเป็นพระวิดีโอคอลหา บังคับให้เปิดกล้องอาบน้ำโชว์ แล้วแอบแคปภาพ เอาไปอวดพระในวัดเดียวกัน แถมอ้างทีหลังว่า ที่แคปหน้าจอเพราะอยากเตือนสติ อย่าทำแบบนี้อีก

นางสาวมานิตา อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย เดินทางร้องขอความเป็นธรรมกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังไม่สามารถทนพฤติกรรมของอดีตแฟนขี้หึงได้ ในขณะบวชเป็นพระยังมีการสั่งให้ผู้เสียหายวิดีโอคอลหาตลอด ไม่เว้นตอนอาบน้ำ นอกจากนี้ อดีตแฟนคนดังกล่าวยังมีการแคปภาพตอนผู้เสียหายโป๊ไปโชว์ให้พระในวัดดู โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานี

ผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มคุยกับ นายสิทธิพล หรือ เผือก ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมาถึงต้นเดือนเมษายน 2567 ได้ตัดสินใจเลิกรากัน เนื่องจากแม่ฝ่ายชายไม่ชอบตน คิดว่าตนจะมาหลอกเอาเงินฝ่ายชาย ตนไม่อยากมีปัญหาเลยเลิก และถอยความสัมพันธ์ออกมา แต่หลังจากนั้นฝ่ายชายยังมีพฤติกรรมตามติดตนอยู่ตลอดเวลา เคยฉุดขึ้นรถจักรยานยนต์ ไปเคลียร์ปัญหาที่บ้าน แต่ก็เคลียร์ไม่ลงตัว เนื่องจากฝ่ายชายยังมีการติดต่อกลับอดีตภรรยาคนแรกอยู่

จนกระทั่งอดีตสามีมีปัญหาเพราะไปรับจ้างเปิดบัญชีม้า แล้วยักยอกเงินของผู้จ้างเปิดบัญชีกว่า 50,000 บาท ไปใช้ ทำให้เจ้าของเงินไม่พอใจ พยายามติดตามทวงเงินคืน ทางอดีตสามีกลัวจึงหนีไปบวชเป็นพระที่ จังหวัดอุทัยธานี แต่บวชแล้วไม่ได้สงบจิตสงบใจ อดีตสามีในคราบพระยังโทรศัพท์กับวิดีโอคอลมาหาเกือบทุกวัน พูดจาเชิงหึงหวง กระทั่งวันหนึ่งระหว่างคุยวิดีโอคอลกัน ฝ่ายชายได้โชว์อวัยวะเพศขณะที่ยังบวชอยู่ นอกจากนี้ ยังวิดีโอคอลมาตอนที่ตนอาบน้ำ ตนต้องรับสายเนื่องจากฝ่ายชายมีนิสัยหึงหวงและอารมณ์รุนแรง แต่อีกฝ่ายแคปภาพหน้าจอขณะที่ตนอาบน้ำเก็บไว้ โดยอ้างว่าเก็บไว้ดูเอง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ตนยังมีใจกับอดีตแฟนคนนี้ จึงยอมคุยกันอยู่ จนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายซึ่งยังอยู่ในผ้าเหลือง แคปรูปในสภาพที่ตนเปลือยกายส่งมาให้ตนดู ซึ่งตอนนั้นรู้สึกตกใจ และพยายามถามฝ่ายชายว่าเหตุใดต้องแคปภาพไว้ แต่ฝ่ายชายก็ยืนยันว่า ไม่มีอะไร แคปไว้ดูเฉย ๆ เท่านั้น

หลังจากนั้น วันที่ 8 พฤษภาคม พระในวัดรูปหนึ่งได้มีการแช็ต Facebook มาหา มาตักเตือนเรื่องพฤติกรรมของตนและอดีตแฟนที่ไม่เหมาะสม มิหนำซ้ำ อดีตแฟนยังเอารูปโป๊เปลือยของตนไปให้พระรูปอื่นดูด้วย จึงทำให้ตนเกิดความรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุที่ต้องมาร้องเพจสายไหม เนื่องจากอดีตสามีข่มขู่ว่ามีญาติเป็นตำรวจ จึงทำให้ตนรู้สึกเกรงกลัวในเรื่องความปลอดภัย และต้องการที่จะยุติความสัมพันธ์กับฝ่ายชาย

เพื่อฟังความสองฝ่าย เราติดต่อหา พระเผือก อดีตแฟนของ น.ส.มานิตา ซึ่งเปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตนไม่ได้เป็นฝ่ายวิดีโอคอลหาฝ่ายหญิงก่อน และไม่ได้บังคับให้เปลือยกาย แต่ฝ่ายหญิงเป็นผู้วิดีโอคอลหาตนเองขณะอาบน้ำ และเปลือยกายให้ดูเอง ที่ตนแคปภาพเอาไว้เพื่ออยากเตือนสติฝ่ายหญิงว่า ไม่สมควรทำแบบนี้ และยืนยันว่าไม่ได้ส่งภาพให้พระรูปอื่นในวัด ส่วนที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าพระเผือกมีการโชว์อวัยวะเพศขณะวิดีโอคอลพระเผือก ยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำ

ที่ผ่านมา ตนพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับฝ่ายหญิง ถึงขั้นต้องหนีไปบวช ไม่ใช่หนีไปบวชเพราะถูกกลุ่มบัญชีม้าตามไล่ล่าตามอย่างที่ฝ่ายหญิงกล่าวอ้าง และที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดจาข่มขู่ใด ๆ กับฝ่ายหญิงมาก่อนเลย ซึ่งหากฝ่ายหญิงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ตนก็พร้อมสู้คดี

เรื่องนี้ผู้เสียหายร้องเรียนในรายการถกไม่เถียงด้วยเมื่อวานนี้ ซึ่ง พระเผือก ตอนแรกให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ยังเป็นพระ แต่ในรายการบอกว่า สึกแล้ว เป็นทิดเผือก แต่ในรายการเจ้าตัวอ้างว่า ที่วิดีโอคอลหาผู้เสียหายขณะนั้น เพื่อจะบอกว่า ขอเป็นเพื่อนกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ แฟนเก่าของตนไม่สบายใจที่ตนมาคบกับผู้เสียหาย แล้วมาวุ่นวายกับชีวิตของตนจนต้องหนีไปบวช แต่ยืนยันว่า ผู้เสียหายเป็นฝ่ายโทรหาตนก่อนตอนอาบน้ำ แต่เรื่องนี้ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ใช่ และมีหลักฐานพร้อมที่จะเอาผิด ทางสายไหมต้องรอดตรวจสอบพบว่า ทางฝ่ายอดีตพระเผือกเป็นฝ่ายโทรหาตลอด ซึ่งเรื่องนี้ ทนายสงกานต์ ก็แนะนำทางข้อกฎหมายว่า การเปิดบัญชีม้ามีความผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะทำให้นายเผือกมีความผิดถึงขั้นติดคุกได้ ส่วนเรื่องการแคปรูปภาพขณะที่ฝ่ายหญิงเปลือยกาย และการบังคับขืนใจ มีความผิดทางกฎหมาย โดยเฉพาะการกระทำความผิดขณะเป็นพระ แนะนำให้ผู้เสียหายเอาหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความ แม้ว่าจะลบไปแล้วตำรวจก็ยังสามารถกู้คืนหลักฐานทั้งหมดได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง