ไม่ได้บีบ นายกฯ ยัน รัฐบาลให้เกียรติผู้ว่า ธปท. แค่สะท้อนปัญหาของประชาชน เข้าใจความเป็นอิสระ ถก ขุนคลัง หาช่องคุยทำงาน
วันนี้ (5 พ.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์กระทบธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า เรื่องนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชน ซึ่งไม่มีใครสามารถปฎิเสธได้ว่า ดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ ถือเป็นหนึ่งในรายจ่ายที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น สิ่งที่ น.ส.แพทองธารพูดไม่ได้กระทบกระทั่ง แต่เป็นการสะท้อนความเห็นประชาชนมากกว่า ซึ่งตนก็เข้าใจความเป็นอิสระของ ธปท. และมั่นใจว่าทำงานร่วมกันและก็ให้เกียรติ ธปท.มาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องเรียกร้อง และต้องพูดคุยกัน อย่างกรณีดอกเบี้ยนโยบายที่ขอให้ปรับลด แต่ผู้ว่าฯ ธปท. มีเหตุผลที่จะไม่ลดก็ไม่ลด รัฐบาลก็เดินหน้าทำงานในส่วนของรัฐบาลต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่ เพื่อให้ลดดอกเบี้ยลงมา ซึ่งถือว่าเป็นการยึดโยงกับประชาชนมากกว่า โดยวันนี้จะลงพื้นที่ไปที่จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดอื่นเพื่อรับฟังประชาชนในเรื่องนี้ด้วย
”เรื่องความเป็นอิสระของ ธปท. ก็เป็นอีกเรื่องนึง แต่การที่เรามาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สถาบันการเงิน สส. นักการเมือง หรือผู้บริหารพรรคทั้งหลาย เรามาอยู่ตรงนี้เพื่อประชาชน แน่นอนว่าทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ส่วนตัวขอยึดโยงกับประชาชนเป็นหลักแล้วกัน“ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนข้อกังวลเรื่องการทำงานของรัฐบาลกับ ธปท. จะยิ่งสวนทางกันหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า มีความกังวลทุกเรื่อง ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง แม้มองต่างกันได้ การประสานงานระหว่างรัฐบาลกับ ธปท. ก็ควรทำผ่านสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สคล.) เป็นหลัก เรื่องความเห็นที่แตกต่างกันชัดเจนอยู่แล้ว ก็ให้ต่างคนต่างทำหน้าที่ไป แม้การลดดอกเบี้ยทีละบาทหนึ่งหรือสลึงหนึ่ง จะช่วยผ่อนภาระให้กับประชาชนได้บ้าง การออกนโยบายแก้หนี้นอกระบบก็ต้องแก้ไข เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ทำงานหนักก็ใช้หนี้ไม่พอ อาจจะกลายเป็นอาชญากรหรือพึ่งยาเสพติด ก็เป็นปัญหาเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ย้ำอีกว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เหล่านี้อย่างมาก จะมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างออกไป แต่ตนเชื่อว่าจะยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ยืนยันว่ารัฐบาลให้เกียรติทุกองค์กร
ส่วนจะได้มีโอกาสพูดคุยผู้ว่าแบงก์ชาติหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี เผยว่า ถ้าเจอก็จะพูดคุย แต่ผู้ว่าแบงก์ชาติบอกให้คุยผ่าน สคล. จึงคิดว่าอาจจะต้องปรึกษากับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ดีขึ้น ยืนยันว่าจะทำงานทุกองค์กร ไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะหากขัดแย้งกันและประชาชนเดือดร้อนก็ไม่ใช่เรื่องดี
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าไม่เจอตัว ปัญหาก็ไม่ได้แก้ไข นายกฯ ตอบทันทีว่า มีวิธีหลายอย่างที่เราสื่อสารกันได้
ส่วนกรณีฝ่ายค้านมองว่าเวทีที่พรรคเพื่อไทยจัดขึ้นเป็นการบีบผู้ว่าแบงก์ชาติ ให้เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย นายกฯ ระบุว่า ไม่เคยบีบอะไรใคร เพียงสะท้อนความต้องการของประชาชนว่าจะมีวิธีไหนแก้ไขปัญหาได้
