บิ๊กต่ายบอกไม่หนักใจบิ๊กโจ๊กขู่ฟ้อง ย้ำเซ็นให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามกรอบกฎหมาย

View icon 73
วันที่ 26 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"บิ๊กต่าย" ย้ำเซ็นให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการไว้ก่อน ตามกรอบของกฎหมาย ไม่หนักใจหากถูกฟ้องดำเนินเนินคดี อยากให้ตำรวจทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ความเชื่อมั่นและศรัทธาจะกลับมาเอง

วันนี้ (26 เม.ย.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึง กรณีที่บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เตรียมจะฟ้องหรือถึงขั้นติดคุก ยืนยันว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนในอำนาจและหน้าที่ของรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยได้ยึดถือตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ อย่างเคร่งครัด พิจารณาตามข้อเท็จจริง การจะนำมาตราใดมาใช้ ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประมวลแล้ว เพื่อให้พิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมาย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรงทุกกรณี ก็มีสิทธิที่จะไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม และเป็นสิทธิของทุกคนที่จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งถือเป็นสิทธิโดยชอบของผู้ถูกกล่าวหาทุกคนไม่ใช่เพียงแค่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วนตนเมื่อตัดสินใจจะดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว ก็มีหน้าที่ชี้แจงตามกระบวนการยุติธรรม เตรียมความพร้อมและรอรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่หนักใจ

“ผมเป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เพียงแต่มีหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตำรวจแห่งชาติ และตั้งใจ ปรับทัศนคติ และสร้างศรัทธา ระหว่างตำรวจต่อประชาชน อยากให้ตำรวจทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอให้ทำเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง และความเชื่อมั่นและศรัทธาจะกลับมา” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการลงนามให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน  ไม่มีปัจจัยอื่นแทรกแซง ทุกอย่างดำเนินการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และกฏ ก.ตร. ไม่มีการใช้ความรู้สึกส่วนตัว หรืออคติใด ๆ พิจารณาไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยืนยันว่ายังสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ ไม่โกรธและไม่อคติกับใคร  อยากให้ตำรวจทั้งประเทศหันหน้ามาทำงาน สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่าคิดว่าเป็นอุปสรรคในการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงข้อกล่าวหาว่าตนหลอกนายกรัฐมนตรี โดยย้ำว่าตนเป็นเพียงตำรวจนายหนึ่ง จะเอาอะไรไปหลอกผู้บริหารประเทศได้ และยืนยันว่าไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ไม่คิดจะขัดแย้งกับใคร ยังให้เกียรติทุกคนเหมือนเดิม 

สำหรับการปลดป้ายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่หน้าที่ของตน มีอย่างอื่นทำมากกว่าการปลดป้าย ถ้าปลดก็ต้องปลด ป้ายของ  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ด้วย ส่วนใครเป็นคนปลดก็เป็นเรื่องที่จะต้องไป สอบสวนต่อ