สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - มารดาของหญิงไทยอายุ 31 ปี ที่ไปอยู่กินกับสามีชาวบาห์เรน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยนำศพลูกสาวกลับประเทศ เพราะเชื่อว่าการตายของลูกสาว อาจมีเงื่อนงำ หลังพบรูปพบช้ำรอยเขียวตามร่างกายและใบหน้า
เมื่อวานนี้มารดาของหญิงสาวอายุ 31 ปี ได้เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ช่วยนำศพลูกสาวที่เสียชีวิตอยู่ที่ประเทศบาห์เรนกลับประเทศไทย หลังจากทางสถานทูตแจ้งว่า พบศพสาวนิรนาม เสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา โดยศพถูกเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาลซันมาเนีย ประเทศบาห์เรน หลังจากมีการส่งรูปภาพศพมาให้ดู ซึ่งตนจำรอยสักที่ขาของลูกสาวได้
โดยมารดาหญิงสาวที่เสียชีวิตเล่าว่า ติดใจกับสาเหตการตายของลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวหายไป และติดต่อไม่ได้นานกว่า 1 ปี แต่ช่วงก่อนหน้านั้น ลูกสาวเคยส่งรูปบาดแผล ฟกช้ำตามร่างกายมาให้ให้น้องสาวและตนดู ว่าถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง หลังจากไปอยู่กินกับสามีที่ประเทศบาห์เรน ทำให้เชื่อว่า การเสียชีวิต อาจมีเงื่อนงำ หรืออาจถูกสามีทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต จึงอยากให้ช่วยนำศพลูกสาวกลับไทย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากข้อมูลจากโรงพยาบาล ระบุการเสียชีวิตว่า ปอดและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ ประกอบกับ รูปถ่ายศพลูกสาวมีรอยช้ำตามตัว ลำคอและใบหน้า
เบื้องต้น มูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้มีการประสานไปยังอธิบดีกรมการกงสุล ผ่านผู้อำนวยการกองคุ้มครองดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างแดน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือในขั้นตอนการนำศพกลับประเทศไทยต่อไป
