ทนายตั้มเดินหน้าเอาผิดบิ๊กตำรวจ จี้นายกฯ เป็นผู้นำอย่าเฉย

View icon 9
วันที่ 31 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทนายตั้ม เข้า บก ปปป. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเส้นทางส่วย เดินหน้าเอาผิดบิ๊กตำรวจฟอกเงิน ยืนยันไม่มีดีลลับ ถอยคนละก้าว จี้นายกฯ อย่านิ่งเฉย เป็นถึงผู้นำรัฐบาล โวขนาดผู้นำฝ่ายค้านยังนัดพบขอข้อมูล

ศึกตำรวจ วันนี้ (31 มี.ค.67) ทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ในคดีที่มีการแฉเครือข่ายการเรียกเก็บส่วยที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายตำรวจระดับบิ๊ก หลังเคยมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้

ทนายตั้ม บอกว่า นำข้อมูลมายื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมด ตั้งแต่นางสาวพิมพ์วิไล ของเว็บพนัน BNK Master และ Venus Master และข้อมูลเกี่ยวกับพันกับรองฟาง และดาบยาว ซึ่งมีการรับเงินจากเว็บพนัน และยังเป็นคนสนิทของพลตำรวจเอกท่านหนึ่ง โดยจะระบุชื่อบุคคลให้ชัดเจนว่าเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง และจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานการโอนเงินบัญชีใดบ้าง เกี่ยวข้องกับตำรวจนายใดบ้าง ตั้งแต่ระดับชั้นประทวนไปจนถึงระดับพลเอก ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆ ได้ยื่นไปตั้งแต่วันที่มาแจ้งความแล้ว 166 แผ่น วันนี้ยื่นเอกสารเพิ่มอีก 9 แผ่น รวมทั้งสิ้น 175 แผ่น

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทนายความถอนฟ้องแล้วนั้น ทนายตั้ม กล่าวว่า อาจเพราะวานนี้ (30 มี.ค.67) ขณะไปทำบุญที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี ตนปากไว พูดว่าเดี๋ยวจะไปขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารและรายการเดินบัญชีต่างๆ อีกฝ่ายคงกังวล จึงถอนฟ้อง เพื่อไม่ให้ตนเองใช้อำนาจศาลในการเรียกเอกสารเหล่านี้ แต่ก็ไม่กังวล เพราะถึงอย่างไร ก็ได้แจ้งตำรวจ บก.ปปป. ไปแล้วว่าให้เรียกดูเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด

ทนายตั้ม ยืนยันด้วยว่า ไม่ใช่ดีลลับ ถอยคนละก้าวแต่อย่างใด ฝ่ายพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ฟ้องเอง ถอนเอง ไม่เกี่ยวกับตน ตนไม่ได้ขอให้อีกฝ่ายถอนฟ้อง และยังยืนยันจะเดินหน้าดำเนินการต่อไป ทั้งเรื่องการดำเนินคดีกับตำรวจ และเรื่องส่วย โดยในวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย.67) ตนจะไปแจ้งความในคดีสมคบและร่วมกันฟอกเงินตามกำหนดการเดิม และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาดำเนินการอะไรบางอย่าง อย่านิ่งเฉย เพราะเป็นถึงผู้นำรัฐบาล แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ

ทนายตั้ม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน กลับประสานตนเองมาขอดูหลักฐาน ซึ่งตนเองได้นัดหมายเข้าพบนายชัยธวัชที่รัฐสภาในช่วงบ่ายวันที่ 1 เม.ย.นี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติวันที่ 3-4 เม.ย.นี้ หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่หากข้อมูลของตนเองเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ก็พร้อมจะให้ข้อมูล

ส่วนกรณีที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. เข้าจับกุมร้านนวดย่านลาดพร้าว หลังจากที่ทนายตั้มเปิดเผยคลิปเสียงการเรียกรับเงินของตำรวจ บก.ปคม. และตำรวจคอมมานโด ทนายตั้มบอกว่า คลิปเสียงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค.2565 โดยเป็นการพูดคุยกันของทีมเก็บส่วย หรือทีมแม่บ้านของ บก.ปคม. และคอมมานโด ในการเก็บส่วยคาราโอเกะย่านลาดพร้าว ซึ่งปกติ บก.ปคม. เรียกเก็บส่วยอยู่แล้ว ร้านละ 1,000 บาท แต่เกิดมีตั๋วเก็บเงินเพิ่มจากคอมมานโดมาอีกร้านละ 500 บาท รวมเป็นร้านละ 1,500 บาท  3 ร้าน ก็ 4,500 บาท