ผ่อนส่งดอกวันละ 4 หมื่น ผู้การฯเชียงใหม่เรียกเคลียร์ เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ลั่นเชียงใหม่ ต้องไม่มีแก๊งเงินกู้ดอกแพง-ทวงหนี้โหด คนเป็นหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่กฎหมายกำหนด
ความคืบหน้ากรณี นายเอ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านประดับยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นำหลักฐานการกู้เงินและภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าพบนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ จากการที่ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบ ข่มขู่คุกคาม ติดตามทวงหนี้ที่หน้าร้านทุกวันๆ ละหลายครั้ง จนลูกค้าไม่กล้าเข้าใช้บริการ ทำให้ต้องปิดร้านหนีเพราะหวาดกลัว โดยที่ผ่านมา ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามโครงการของกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
วันนี้ (8 มี.ค.67) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญตัว นายเอ เข้าพบ และส่งชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และได้ประสานติดต่อกับนายเอ เพื่อให้ความช่วยเหลือติดตามเรื่องดังกล่าว และรับปากว่าจะดูแลคดี โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เชียงใหม่ต้องไม่มีแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยสูงกว่ากฏหมายและการทวงหนี้โหด
จากข้อมูลที่ได้รับคือต้องยอมรับว่านายเอ ไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ แต่ดอกเบี้ยอาจไม่เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด ซึ่งตอนนี้รู้ตัวเจ้าหนี้ทั้งหมดแล้ว จะเจรจาไกล่เกลี่ยกัยทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ รายไหนที่ผ่อนส่งเกินเงินต้น หรือผ่อนดอกเบี้ยได้จนอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ก็จะเจรจาให้ยุติการผ่อนชำระ รายไหนที่ยังอยู่ในช่วงผ่อนจ่ายก็จะเข้าไปดูเรื่องของดอกเบี้ยต้องอยู่ในระดับที่กฏหมายกำหนด ก็จะให้ผ่อนจ่ายต่อจนครบ ส่วนรายไหนที่มีพฤติกรรมดอกเบี้ยโหดหรือสูงเกินกว่ากฏหมายกำหนด และหากไม่ยินยอมไกล่เกลี่ย หรือรายไหนที่มีพฤติกรรมที่ข่มขู่คุกคามทวงหนี้ก็จะใช้กฏหมายเข้าดำเนินคดีทันที
ด้าน นายเอ เปิดเผยหลังเข้าพบผู้การเชียงใหม่ ว่ารู้สึกสบายใจขึ้น หากตำรวจรับปากว่าจะเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย ก่อนหน้านี้ ได้กู้ยืมเงินจากกลุ่มเงินกู้นอกระบบมาใช้จ่ายหมุนเวียนในการทำธุรกิจตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.66 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ครั้งแรกกู้มา 20,000 บาท ผ่อนจ่ายเป็นรายวันๆ ละ 1,000 บาท จำนวน 24 วัน เป็นเงินรวม 24,000 บาท แต่เมื่อผ่อนจ่ายไปได้ประมาณ 10-12 วัน นายทุนเงินกู้จะเกลี่ยกล่อมให้ตัดยอดเดิมและกู้เพิ่มซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับมีผู้ให้กู้รายใหม่อีกหลายรายที่เป็นเครือข่ายเดียวกันสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปล่อยเงินกู้ให้อีกเรื่อยๆ จนมีเจ้าหน้าหนี้รวมกัน 31 ราย มียอดหนี้รวมกว่า 700,000 บาท ต้องผ่อนจ่ายวันละ 40,000 บาท โดยผ่อนต่อเนื่องทุกวันมาตลอด กระทั่งปลายเดือน ก.พ.67 ที่ผ่านมาประสบปัญหาที่แม่ป่วยหนักและต้องใช้เงินรักษาตัวจำนวนมาก จึงพยายามเจรจากับเจ้าหนี้ทุกราย ขิผ่อนจ่ายหนี้ที่เหลือให้เป็นรายเดือน รวมทั้งต่อรองขอปรับยอดหนี้ให้เหลือตามความเป็นจริงด้วย
นายเอ บอกด้วยว่า ได้ผ่อนจ่ายหนี้ให้ทุกวัน เป็นยอดเงินรวม 1.4 ล้านบาท แต่ยอดหนี้ไม่ลดลง คงเหลืออยู่เต็มจำนวน 700,000 บาท เมื่อผ่อนจ่ายไม่ไหว ก็มีการติดตามทวงหนี้ที่หน้าร้านทุกวัน วันละหลายครั้ง จนลูกค้าไม่กล้าเข้าใช้บริการ จนต้องปิดร้านหนี ส่วนแม่ที่ป่วยหนัก กับลูกชายอายุ 14 ปี ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
