ชาวสวิสรัวหมัดใส่หญิงไทย เหตุรถเข็นเบียดกันในห้าง

View icon 440
วันที่ 6 มี.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ฝรั่งชาวสวิสวัย 60 ปี ก่อเหตุชกต่อยคุณป้าวัย 58 ปี กลางห้างดังเมืองตรัง อาการสาหัส จมูกหัก หน้าตาบวมปูด ผู้เสียหายเล่านาทีรัวหมัดปางตาย เชื่อเจตนาฆ่าเพราะใช้เข่ากดหลอดลม ขณะที่สถานทูตสวิส ปล่อยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไทย

กรณีชายชาวสวิสเซอร์แลนด์ อายุ  60 ปี ซึ่งพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง โดยถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางนัฎชนันท์ อายุ 53 ปี กลางห้าง ในเขตเทศบาลนครตรังอาการสาหัส จมูกหัก ตาบวม หลังบวม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

ความคืบหน้า ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หิ้วกระเช้าไปเยี่ยมนางนัฎชนันท์ ที่ได้รับบาดเจ็บ

นายแพทย์สินชัย รองเดช นายแพทย์ สสจ.ตรัง กล่าวว่า คาดว่าผู้บาดเจ็บ ต้องใช้เวลาในการรักษาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนกว่าจะหาย เนื่องจากกระดูกแตกและช้ำไปทั้งหน้า

ส่วนนางนัฎชนันท์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุไปซื้อของที่ห้างเพียงลำพัง ระหว่างเข็นรถเข็นซื้อของ จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็เข็นรถมาชนและดัน จนต้องหันไปพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า ให้ระวังและอย่าทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ พูดจาด่าทอ เอะอะโวยวาย จึงเข็นรถหนี ไม่อยากมีปัญหาทะเลาะวิวาท

จังหวะหันหลังให้ ฝ่ายผู้ก่อเหตุก็เข้ามารัวหมัดใส่หน้าจนล้มคว่ำ จึงขว้างขวดน้ำอัดลมตอบโต้ แต่ก็ไม่โดนอีกฝ่าย เพราะหมดแรง ปรากฏว่าคราวนี้ ผู้ก่อเหตุกลับมาชกต่อยอีกรอบ ใช้เข่ากดหลอดลม จนหายใจไม่ออก เน้นต่อยที่เบ้าตา มีคนยืนดูห่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย

นางนัฎชนันท์ ระบุด้วยว่า ทำไมต้องโกรธและทำรุนแรงแบบนี้ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งตนมีปัญหาเรื่องการเดิน เพราะไปถอนฟันมา ทำให้ระบบประสาทกระทบกระเทือน พยายามเตือนให้เขาสุภาพกับคนไทย เพราะมาเที่ยวในไทย ไม่ควรทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายกลับกล้าก่อเหตุรุนแรง

ส่วนความคืบหน้าในทางคดี ที่ สภ.เมืองตรัง นายกฤตพงศ์ ลูกชายและญาติๆของผู้บาดเจ็บ ได้มาสังเกตการณ์ที่หน้าโรงพัก ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องโถงโรงพักตั้งแต่เมื่อคืน มีตำรวจท่องเที่ยวและล่ามเข้าไปพูดคุยสอบถาม

ผู้ก่อเหตุยังมีท่าทีเงียบขรึม เครียด ไม่ไว้ใจใคร สื่อสารผ่านล่ามเป็นบางครั้ง โดยตลอดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ชายชาวสวิสคนดังกล่าว ไม่ยอมพูดกับตำรวจและตำรวจท่องเที่ยว ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา และยังบอกผ่านล่ามว่า รู้สึกกังวลที่ถูกละเมิด เนื่องจากโดนถ่ายรูป

ขณะที่ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำสำนวน แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และแจ้งข้อหาเพิ่ม ฐานขัดขืนเจ้าพนักงาน เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยอมลงนามเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาและลงลายนิ้วมือ

ขณะที่ล่าม บอกว่า อาการชายชาวต่างชาติรายนี้ดีขึ้น พูดคุยมากขึ้น แต่ไม่คุยรายละเอียดของคดี ตอนเช้ากินข้าวเหนียวหมูปิ้งไปนิดหน่อย ไม่กินกาแฟ ขอแค่น้ำเปล่า

ส่วนการที่ไม่ยอมเซ็นเอกสารหรือดำเนินการตามที่ตำรวจบอก ล่ามระบุว่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นสิทธิ และเป็นสิทธิที่จะไม่ตอบ ไม่คุย หรือให้ความร่วมมือใด ๆ ตำรวจจะให้พิมพ์ลายนิ้วมือแต่ก็ปฎิเสธ

ต่อมา พนักงานสอบสวน ให้ล่ามแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ก่อเหตุรับทราบ และเตรียมส่งฟ้องศาล จังหวัดตรัง ในระหว่างนั้น ผู้ก่อเหตุมีสีหน้าที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด มีท่าทีขัดขืน ยืนยันจะไม่ไปไหน จะขออยู่ต่อที่ สภ.เมืองตรัง

ต้องใช้กำลังสายตรวจหลายนายเข้าควบคุมสถานการณ์ ล่ามพยายามพูดอธิบายให้ผู้ต้องหาเข้าใจ จนมีท่าทีอ่อนลงและยอมให้เจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือ นำขึ้นรถส่งผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลจังหวัดตรัง ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่ามีญาติ เพื่อนฝูง หรือภรรยาของผู้ต้องหาติดต่อขอประกันตัว โดยเฉพาะภรรยาของชายชาวสวิสรายนี้ ล่าสุดทราบว่า หนีไปอยู่ที่จังหวัดกระบี่ประมาณ 1 เดือนแล้วหลังจากที่ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน

ขณะเดียวกัน ตำรวจท่องเที่ยวประสานสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งทางสถานทูตแจ้งมาว่า ให้ดำเนินการตามกฎหมายของประเทศไทย ไม่ต้องละเว้น

ด้านเพื่อนบ้านของฝรั่งรายนี้ ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น ชอบเดินทั้งวัน บางครั้งเดินโดยไม่ใส่เสื้อไปไกลหลายกิโลเมตร รวมถึงมักมีอารมณ์ฉุนเฉียว และทะเลาะจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกับภรรยาบ่อยครั้งอีกด้วย