น้อยใจครอบครัว ทำตัวเป็นโจร ขโมยกระเป๋าเจ้าของร้านขายของเก่า หวังเข้าคุก

View icon 133
วันที่ 15 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มวัย 42 ปี ตั้งใจวิ่งราวกระเป๋าเจ้าของร้านของเก่า ก่อนถูกจับได้ อ้างตั้งใจเป็นโจรเพื่อให้เป็นของขวัญให้เมีย และครอบครัว เพราะตัวจะได้เข้าไปอยู่ในคุก

วันนี้ (15 ก.พ. 67) ร.ต.อ.วิโรจน์  เทศทอง รอง สวป.สภ.บางปะกง พร้อมกำลังสายตรวจพิมพา ตรวจสอบเหตุวิ่งราวกระเป๋าเงิน ที่ร้านปิยไพรช้างทองของเก่า ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา  พบนายสมเดช อายุ59 ปี กับนางไย อายุ62 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน ยืนควบคุมตัวนายอนุชา อายุ42 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋าเงิน เอาไวได้ 

โดยทั้งสองคนให้ดูกล้องวงจรปิดเผยพฤติกรรมนายอนุชา โดยก่อนจะเกิดเรื่องนายอนุชา ได้เข็นรถเข็นที่บรรทุกเศษพลาสติกเดินมาหน้าร้านแล้วเก็บเศษเหล็กของที่ร้านที่วางไว้นำมาขาย นางไยก็พยายามสอบถามว่าเอาเหล็กกับเศษพลาสติกมาจากไหน

นายอนุชา กลับอ้างว่าเก็บมาได้  ไม่ได้ขโมยมา ก่อนจะดูกล้องวงจรปิดพบว่านายอนุชา ขโมยของหน้าร้านมาขายให้กับที่ร้าน พอจับได้นายอนุชาก็โวยวาย บอกให้เรียกตำรวจมาได้เลย

พอจะเรียกมาจริงๆ นายอนุชาก็โวยวาย ก่อนจะอาศัยจังหวะที่นายสมเดช เผลอแล้วคว้ากระเป๋าวิ่งหนีเข้าไปหลังร้านซึ่งคนในร้านเห็นนางไย พยายามตะโกนเรียกให้นายอนุชาหยุด

แต่นายอนุชา กลับหันมาบอกว่า ถ้าอยากได้ให้วิ่งตามมาเอาเอง ทำให้นายสมเดช และลูกน้องวิ่งตามอย่างรวดเร็วก่อนจะตามไปทันนั้นบ่อน้ำห่างจากร้าน 1 กม. แล้วเรียกตัวให้ขึ้นมาบนฝั่ง 

เบื้องต้นนายอนุชา  เผยว่าที่ทำลงไปเพราะอยากเป็นโจร เพื่อเป็นของขวัญให้เมีย ให้แม่ ให้ครอบครัว แต่จำวันผิดคิดว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์

ส่วนปมเหตุที่ทำแบบนี้ นายอนุชา กล่าวอ้างทั้งน้ำตาว่า เพราะรู้สึกผิดหวังที่ครอบครัวสอนให้ตนเป็นคนดี แต่คนในครอบครัวกลับมาทำผิดเสียเอง ซ้ำบอกให้ตนไปขโมยของเพื่อให้ติดคุกจะได้ไม่ต้องเปิดโปงครอบครัว รู้สึกเสียใจที่ครอบครัวพูดแบบนี้ จึงตัดสินใจมาก่อเหตุเพื่อจะติดคุกเพราะข้างนอกมันโหดร้ายกับชีวิตตน

และตอนที่หยิบกระเป๋าของนายสมเดช ก็ไม่รู้สึกตัวจนได้ยินเสียงตะโกนว่าเอากระเป๋าเงินไป ก็รู้ตัวว่าหยิบกระเป๋าเงินเขามาแล้ว ทำให้ต้องวิ่งต่อไปสุดท้ายก็ถูกจับได้