ดรามา! ทำแผน อาร์ม มือปืนยิงหลานกำนัน พี่สาวตะโกนสอน

View icon 170
วันที่ 8 ก.พ. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัว "นายอาร์ม ปืนโหด" ที่ยิงหลานกำนันเสียชีวิตคาถนนหลวงเมืองเพชร ไปทำแผนในที่เกิดเหตุ พี่สาวมือปืนได้ตะโกนสั่งให้มือปืน ไม่ให้ชี้จุดก่อเหตุ ไม่ต้องพูด จะให้การในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นพี่สาวมือปืนคนเดิม ได้มีการปะทะวาจากับผู้สื่อข่าวสาวช่องอมรินทร์ทีวี ทำให้กลายเป็นดรามาในประเด็นนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากตอนนำตัว นายภีมวัจน์ หรือ อาร์ม อายุ 29 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเจ้าตัวก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไล่ชน และไล่ยิง นายสุทัศน์ ลบโฉม อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้า และเป็นหลานชายของกำนัน ตำบลหัวสะพาน ด้วยปืนขนาด 9 มม.จนเสียชีวิต ริมถนน เพชรเกษมขาขึ้น (กทม.) หมู่ 10 ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมืองเพชรบุรี เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา

วันนี้ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาพี่สาวผู้เสียชีวิตออกมาร้องเรียนเรื่องนี้ กับท่าน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เช่นกัน เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ร้อยตำรวจโทหญิง พี่สาวมือปืน ถึงความเหมาะสมหรือไม่ ที่แสดงพฤติกรรมแบบนั้น

กัน จอมพลัง กล่าวว่า จากการสอบถามข้าราชการตำรวจทั่วไป พร้อมกับดูพฤติกรรมของ ร้อยตำรวจโทหญิง คนดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะการเป็นตำรวจและเป็นญาติของผู้ต้องหา กลับมาตะโกนให้คำแนะนำผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมอุกอาจแบบนั้น แม้จะอ้างว่า จะเป็นการลาราชการมา ก็อยากตรวจสอบทางวินัย เพราะมองว่าพฤติกรรมแบบนี้ทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสียหรือไม่

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ต้องหาอาจไม่รู้สิทธิ์เรื่องการทำแผนนั้น เชื่อว่าพนักงานสอบสวนมีการแจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหาให้ทราบแล้ว และมีการพูดคุยกับผู้ต้องหาแล้วจนยอมขึ้นรถ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ซึ่งมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไปด้วย แต่พฤติกรรมของพี่สาวผู้ต้องหา มองว่าไม่เหมาะสม เชื่อว่าชาวบ้านทั่วไปที่เห็นแบบนี้ก็คงไม่สบายใจ จึงอยากให้มีการตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่พี่สาวมือปืนไปมีประเด็นทะเลาะกับนักข่าวนั้น ตนมองว่านักข่าวก็ทำหน้าที่ตามขอบเขตของเขา ถามหน่อยถ้าไม่มีการเสนอข่าวกดดัน ผู้ต้องหาจะมามอบตัวไหม

ด้านพี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่ายังเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจกับตำรวจชุดคลี่คลายคดี แต่ก็ยังหวั่นว่าข้อกฎหมายอาจจะมีช่องโหว่ จนทำให้ผู้ต้องหาได้ประโยชน์ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาพบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีด้วยรถหรู และมีการนัดหมายเข้ามอบตัวกับตำรวจ ส่วนมูลเหตุยืนยันว่าเป็นเรื่องในอดีตที่ทั้ง 2 คน ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว แต่ฝ่ายผู้ต้องหายังปักใจยั่วยุทุกครั้งที่มีการพบเจอ ซึ่งฝ่ายคนตายก็มีการหลบเลี่ยงมาตลอด จนกระทั่งมาเสียชีวิต

ด้าน พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริง และมีการลาราชการมาอย่างถูกต้อง ส่วนการแนะนำสามารถทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องมาตะโกนบอก เพราะวันเกิดเหตุมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย จึงมองว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบว่าผิดหรือไม่ ส่วนในทางคดีขอให้ญาติมั่นใจ เพราะแม้ผู้ต้องหาจะมอบตัว แต่ตำรวจก็คัดค้านการประกันตัว อีกทั้งท่าน ผบ.ตร.สั่งการข้ามประเทศให้ รองผบช.ภ.7 เข้ามากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีอาชญากรรม ย้ำว่าทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้สำหรับเรื่องที่ ร้อยตำรวจโทหญิง พี่สาวของมือปืน ได้มีการประทะคารมกับผู้สื่อข่าวสาวช่องอมรินทร์นั้น โดยหลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวสาวได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อเป็นการป้องกันตัว ในความไม่ปลอดภัยในชีวิต จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียก ร้อยตำรวจโทหญิง พี่สาวของมือปืน เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้สื่อข่าวสาว ซึ่งต่างฝ่ายต่างยอมยกมือไหว้ขอโทษซึ่งกันและกัน โดยทางพี่สาวมือปืนพูดทั้งน้ำตาว่า "ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจ ตนแค่เป็นห่วงครอบครัว ตนเครียดมาก"