นายกรัฐมนตรี "เบนจามิน เนทันยาฮู" ของอิสราเอล ยืนยันผ่านแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า อิสราเอลจะไม่ถอนกำลังออกจากฉนวนกาซา หรือปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอลจำนวนหลายพันคน โดยนายเนทันยาฮูย้ำว่า เป้าหมายของอิสราเอล คือ การกำจัดกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้สิ้นซาก เพื่อไม่กลับคุกคามอิสราเอลได้อีก รวมถึงนำตัวประกันที่ถูกคุมขังไว้ที่ฉนวนกาซากลับมาทั้งหมด ซึ่งล่าสุด กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันแล้ว 110 คน จาก 250 คน
ขณะที่กลุ่มฮามาส มีการเตรียมข้อเสนอหยุดยิงกับอิสราเอล เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ในฉนวนกาซา โดยทาง นายอิสมาอิล ฮานีเยห์ (Ismail Haniyeh) หัวหน้ากลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า จะไปหารือเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวที่กรุงไคโร ของอียิปต์ ซึ่งเป็นตัวกลางการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ล่าสุด ทางด้านของ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ของสหรัฐฯ ได้มีการเรียกร้องให้กลุ่มฮามาส ปล่อยตัวประกันทั้งหมดให้กับอิสราเอล
ขณะเดียวกัน มีการเผยภาพชาวอิสราเอลฝ่ายขวาจัด รวมตัวประท้วงที่บริเวณนอกด่านนิตซานา (Nitzana crossing) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ เพื่อเรียกร้องให้หยุดส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือกลุ่มฮามาส แทนที่จะได้ช่วยเหลือตัวประกัน ที่ถูกคุมขังอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งการประท้วงครั้งนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่มีการประท้วงที่ด่านเคเรมชาลอม (Kerem Shalom crossing) ส่งผลให้รถบรรทุกความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าไปในฉนวนกาซาได้ และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังด่านนิตซานาแทน
ขณะที่สถานการณ์ล่าสุด ยังคงเกิดเหตุความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ โดยมีการเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะหน่วยคอมมานโดของกองทัพอิสราเอล ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และหญิงชาวมุสลิม บุกเข้าไปในโรงพยาบาลในเขตเวสต์แบงก์เมื่อวานนี้ ซึ่งกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไป 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ และโดยอีก 2 คน เป็นพี่น้องของสมาชิกคนดังกล่าว ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทหารอิสราเอลได้ลงมือสังหารผู้เสียชีวิต ด้วยการยิงเข้าที่ศีรษะ ขณะที่พวกเขากำลังพักฟื้นอยู่
