ป้าบัวผัน เข้าเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยา 2 แสนบาท ส่วนลุงเปี๊ยก อาจได้เงินชดเชยจากถูกขัง

View icon 162
วันที่ 17 ม.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กรมคุ้มครองสิทธิฯ แจงเกณฑ์รับเงินเยียวยา เหยื่อแก๊ง 5 วัยรุ่น ป้าบัวผัน ได้รับเงิน 2 แสนบาท ส่วนลุงเปี๊ยก อาจได้ค่าชดเชยจากการถูกขัง ขณะที่ 4 เดือน จ่ายเยียวยาแล้ว 170 ล้านบาท

จากกรณีมีผู้พบศพ น.ส.บัวผัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ถูกคนร้ายฆ่าทุบศีรษะและใบหน้า และนำไปโยนทิ้งในสระน้ำบริเวณหลังปั๊มน้ำมัน ถนนสุวรรณศร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.66 โดยหลังเกิดเหตุตำรวจนำตัว นายปัญญา (ขอสงวนนามสกุล) หรือเปี๊ยก สามีผู้ตายมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนเสียชีวิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ พบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน กำลังรุมทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนสลบ จากนั้นลากตัวไปสนามฟุตบอลโรงเรียน เพื่อทำร้ายร่างกายซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งหมดนั้น
 
ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.67) นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า น.ส.เบญญาภา ทองสัมฤทธิ์ รักษาราชการแทนยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้ลงพื้นที่รับแจ้งสิทธิคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ และแจ้งสิทธิการขอรับการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเรียบร้อยแล้ว

นายธีรยุทธ กล่าวย้ำว่า เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และสาธารณชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ถูกกระทำและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งเข้าเกณฑ์ที่มีสิทธิได้รับการเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) โดยทายาทมีสิทธิได้รับการเยียวยา (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 100,000 บาท (กรณีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และสาธารณชนให้ความสนใจ) (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท และ (4) ค่าเสียหายอื่น 40,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ การอนุมัติเยียวยา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอนุกรรมการจังหวัดสระแก้วเป็นสำคัญ ซึ่งกำหนดประชุมพิจารณาในวันที่ 31 ม.ค.67

ส่วนการช่วยเหลือ นายปัญญา (ลุงเปี๊ยก) สามีของผู้ตาย ซึ่งถูกคุมขังก่อนที่เจ้าหน้าที่จะจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงได้นั้น มีสิทธิได้รับการเยียวยา ตามพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม  พ.ศ.2558 (กรณีเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน) อาจได้รับเงินช่วยเหลือจากที่ถูกขังในชั้นสอบสวน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดสระแก้ว เช่นกัน

นายธีรยุทธ กล่าวเพิ่มว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จำนวน 8,341 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 445,000,000 บาท และปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 ถึง วันที่ 12 ม.ค.67) ได้ช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จำนวน 3,405 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 170,316,046 บาท