ห้องข่าวภาคเที่ยง - การชนะนัดนี้ของทีมชาติไทย ทำให้เกิดสถิติขึ้นมามากมาย ทีมชาติไทยแข่งขันรายการนี้มา 8 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 51 ปี ที่ไทย ชนะในนัดแรก
- ปี 1972 (ไทยเจ้าภาพ) แพ้ คูเวต 0-2
- ปี 1992 (ญี่ปุ่นเจ้าภาพ) เสมอ กาตาร์ 1-1
- ปี 1996 (ยูเออี เจ้าภาพ) แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-6
- ปี 2000 (เลบานอน เจ้าภาพ) แพ้ อิรัก 0-2
- ปี 2004 (จีนเจ้าภาพ) แพ้ อิหร่าน 0-3
- ปี 2007 (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย, เวียดนาม เจ้าภาพร่วม) เสมอ อิรัก 1-1
- ปี 2019 (ยูเออี เจ้าภาพ) แพ้ อินเดีย 1-4
- ปี 2023 (กาตาร์เจ้าภาพ) ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0
และครั้งนี้ ทีมชาติไทย เป็นชาติเดียวในย่านอาเซียน ที่ชนะในนัดแรก ซึ่งเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แพ้ทั้งหมดในนัดแรก
หลังจบเกม มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "เกมแรกเป็นเกมที่ยาก แต่ว่าเราสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ถือว่าน่าพอใจมาก"
ขณะที่ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์ว่า "เราทำได้ดีมากในเกมนี้" และจากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ทีมชาติไทยล้างอาถรรพ์ไม่ชนะนัดแรก ในการแข่งขันรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แม้ว่าเดินทางไปประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังติดตามฟุตบอลทีมชาติไทย และยังได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย X ระบุว่า "ระหว่างเดินทางนั่งรถขึ้นเขาไป Davos ติดตามการแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทยตลอดครับ ดีใจครับหมดเวลาชนะไป 2-0 จากนี้ไปมันแน่ ช่วยกันติดตามและเป็นกำลังใจต่อครับ"
นอกจากนี้ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย บอกว่า ชัยชนะนัดนี้อยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป และได้อัดฉีดเงินรางวัลให้นักเตะแต้มละ 1 ล้านบาท ตอนนี้ไทยมี 3 แต้ม ทำให้แข้งช้างศึกรับเงินอัดฉีดไป 3 ล้านบาทเอาไปนอนกอดอุ่น ๆ แล้ว
