เหตุ “ล้อหลุด” พ่นพิษคนใช้รถไฟสายสีเหลือง บ่นอุบ รถนาน 30-40 นาที/ขบวน

View icon 127
วันที่ 3 ม.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เช้านี้คนใช้รถไฟสายสีเหลือง บ่นอุบ หลังต้องรอขึ้นรถนาน 30-40 นาที/ขบวน เซ่นเหตุ “ล้อหลุด” หลายคนเลือกเปลี่ยนวิธีการเดินทาง แต่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 100 –00 บาท

จากกรณีเมื่อวานนี้ (2 ม.ค. 67) เวลา 18.00 น. เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ล้อหลุดหล่นลงมาใส่รถแท็กซี่ที่วิ่งสัญจรอยู่บนถนนเทพารักษ์ กม.3 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง เปิดเผยถึงสาเหตุในเบื้องต้นพบว่าเกิดจากเบ้าลูกปืนล้อแตก  ทำให้ล้อหลุดหล่นลงมา โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้เข้าศูนย์ซ่อมบำรุงแล้ว และในส่วนของรถไฟฟ้าไม่ได้เป็นอะไร สามารถวิ่งให้บริการได้ตามปกติ

ต่อมา (3 ม.ค. 67) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แจ้งผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ว่า รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับรูปแบบการเดินรถ ขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทุก 30 นาที (ผู้โดยสารโปรดพิจารณา วางแผนการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวกครับ) แต่ผู้ใช้บริการหลายคน ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลายช่องทาง ว่า บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหลายสถานี ของสายสีเหลือง แปะประกาศว่า ขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทุก 55 นาที ไม่ใช่ 30 นาที สร้างความตกใจให้กับผู้ใช้บริการจำนวนมาก

ล่าสุด ทีมข่าว Ch7HD News ลงพื้นที่สำรวจการใช้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ของประชาชนที่สถานีลาดพร้าว พบว่ามีประชาชนหลายคนที่ตั้งใจมาใช้บริการ ต่างก็ผิดหวังเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำสถานีแจ้งว่าการเดินทางวันนี้จะมีความล่าช้ากว่าปกติประมาณ 30-40 นาที ซึ่งผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าหลายคนก็เลือกที่จะเดินทางด้วยวิธีอื่นเช่น รถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ หรือ เหมาวิน จยย.

จากการสอบถามนายอภิชา การุญวิชญ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่จะมาใช้บริการ เผยว่า ไม่รู้มาก่อนว่ามีการปรับเวลาเดินรถ เพราะปกติก็ใช้เวลารอเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น แต่วันนี้รถมาช้าเกือบ 40 นาที ซึ่งถ้ารอก็จะไปเรียนไม่ทันจึงเปลี่ยนวิธีการเดินทาง ยอมจ่ายค่ารถแท็กซี่ 100-200 บาท เพื่อไปมหาวิทยาลัย

ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจ กลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับตนเองเพราะต้องใช้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองไปมหาวิทยาลัยทุกวัน จึงอยากให้บริษัทฯ และหน่วยงาน ตรวจสอบความพร้อมของรถให้ดีก่อนจะนำออกมาให้บริการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง