คู่รักฝันสลาย ถูกรถเก๋ง-รถบัสซิ่งชนสาหัส ไม่เหลียวแล

View icon 103
วันที่ 20 ธ.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้เราได้นำเสนอข่าว คู่รักวัยรุ่นชาย-หญิง เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ มาทำงานในจังหวัดอยุธยา เพื่อมาทำงานเก็บเงินแต่งานที่ แต่ฝันต้องสลาย เพราะถูกรถเก๋งกับรถบัส ขับแข่งกันปาดหน้ากันไปมา พุงมาชนรถจักรยานยนต์ของคู่รักที่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

จะเห็นว่าก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ รถเก๋งมีการปาดหน้ารถบัสอย่างกระชั้นชิดพอสมควร จากนั้นก็มีการขับจี้ท้ายกัน จนรถเก๋งเร่งเครื่องหนี แต่รถบัสได้เร่งเครื่องตามมาชนท้ายเต็มๆ ดูลักษณะเหมือนตั้งใจชน

นางญาณิกา เพชรกล้า อายุ 32 ปี ได้พานายณัฐพล แก้วกัน อายุ 22 ปี (ซึ่งเป็นน้องชาย) และนางสาว วิยะดา บุญสิงห์ อายุ 22 ปี (แฟนน้องชาย) ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์ในคดีนี้ เดินทางมาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่ถูกรถเก๋งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีคู่กรณีทั้งคนขับรถเก่งและรถบัสมาเยี่ยม หรือเยียวยาอะไรเลย ตอนนี้เรื่องผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว ตำรวจยังไม่เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ อ้างว่าคู่กรณีไม่ยอมมา แถมยังปล่อยรถคู่กรณีออกจากโรงพักไปอีก

ด้านนางญาณิกา เพชรกล้า พี่สาวผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ได้ดำเนินการแจ้งความไปยังตำรวจ สภ.อุทัย ซึ่งช่วงแรกพนักงานสอบสวนก็พูดจาดี บอกว่าโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องคดีได้ตลอด และได้ดำเนินการออกหมายเรียกคู่กรณีทั้งฝั่งรถบัสและรถเก๋งมาพบพนักงานสอบสวน แต่ปรากฏว่ามี แต่เพียงฝั่งรถบัสเท่านั้น แต่ฝั่งรถเก๋งกลับไม่เข้ามาพบตำรวจ มีเพียงแต่การพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งฝั่งรถเก๋งก็บ่ายเบี่ยงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดและปัดความรับผิดชอบ อีกทั้งพบว่า ฝั่งรถเก๋งก็ไม่มี พ.ร.บ. และมีประกันรถยนต์ด้วย ต่อมาข้อมูลจากชาวบ้านว่า ฝั่งรถเก๋งเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ภายในพื้นที่ มีการส่งผู้ใหญ่ฝั่งรถเก๋งมาพูดคุยกับตำรวจเพื่อเคลียร์คดี

พอตนได้พยายามติดตามความคืบหน้าความคดีทางคดีกับตำรวจมากขึ้น ปรากฏว่าถูกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนิ่งเฉย อ้างว่าตนย้ายไป สภ.อื่นแล้ว ให้พนักงานสอบสวนคนอื่นรับผิดชอบคดีแทน จากนั้นก็ไม่รับสายโทรศัพท์อีกเลย พอตนเองโทรศัพท์ไปพูดคุยกับทางฝั่งรถบัส ก็อ้างว่าต้องให้รถเก๋งมารับผิดด้วย และได้นำเงินจำนวน 15,000 บาทมามอบกับแม่คนเจ็บ แต่เงินจำนวนดังกล่าวก็ยังไม่พอกับค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตนเองในฐานะเป็นพี่สาวรู้สึกสงสารน้องชาย และแฟนสาวอย่างมาก เพราะปีหน้าทั้งคู่มีแพลนจะแต่งงานกัน โดยการมาทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เพื่อเก็บเงินแต่งงานและสร้างอนาคต แต่กลายเป็นว่าทั้งสองคนต้องหมดอนาคต

ฝ่ายชายผู้ขับขี่คือนายณัฐพล แก้วกัน ได้รับบาดเจ็บ ตับแตก ตับอ่อนแตก ปอดช้ำ แขน-ขาหักต้องใส่เหล็ก เย็บเกือบ 300 เข็ม ไม่สามารถเดินปกติได้ นอนโรงพยาบาล 34 วัน

ส่วนฝั่ง นางสาววิยะดา บุญสิงห์ ได้รับบาดเจ็บ ไตช้ำ ตับช้ำ ซี่โครงหัก เลือดคั่งในสมอง และขาหักต้องใส่เหล็กดาม เย็บ 40 เข็ม ไม่สามารถเดินปกติได้ นอนโรงพยาบาล 13 วัน