เศรษฐา ซัด ผู้ว่าฯ ททท. บอกให้ลงมาดูจังหวัดที่เดือดร้อน อย่ามัวไปแต่จังหวัดใหญ่-เที่ยวต่างประเทศ

View icon 66
วันที่ 9 ธ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เศรษฐา ซัด ผู้ว่าฯ ททท. บอกให้ลงมาดูจังหวัดที่เดือดร้อน อย่ามัวไปแต่จังหวัดใหญ่-เที่ยวต่างประเทศ ขอให้ความสำคัญการจับจ่าย-ระยะเวลาอยู่ท่องเที่ยว อย่าตะแบงแต่จำนวน

ขณะที่นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเดินทางมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี​ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และสินค้าวิสาหกิจชุมชน​ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตำบลท่ามะขาม และได้รับ​การบรรยายรับฟังปัญหาภายในพื้นที่​จังหวัดกาญจนบุรี จากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนายกองค์การบริการส่วนจังหวัดกาญจนบุรี

โดยบางช่วงบางตอน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า การแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดิน มีปัญหาตั้งแต่ปี 2481ซึ่งขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ผบ.ทสส มหาดไทย ช่วยไปพูดคุยกันให้จบ​ เพราะปัญหานี้มีมายาวนาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาถึงแล้วก็อยากให้จมที่รุ่นนี้ ตนขอฝากผู้ว่าราชการไว้ด้วย หากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินได้ตนเชื่อว่าแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนได้อย่างดี​ ควบคู่ไปกับนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะจัดการหนี้นอกระบบให้หมด หากทุกภาคส่วนช่วยกันทำงานเต็มที่ตนจะช่วยอยู่เบื้องหลังพยายามให้จบให้ได้ภายในรุ่นนี้ เพื่อให้มีสินทรัพย์เป็นทุน​ เนื่องจากศักยภาพภายในจังหวัดกาญจนบุรีนั้นเหลือล้น เป็นจังหวัด ท็อป​ 5 ของประเทศได้อย่างสบาย

ส่วนการบริหารจัดการน้ำ ต้องไม่ท่วมไม่แล้ง​ แต่พื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นปัญหาน้ำแรงมากกว่า หากไม่แรงเสียอย่างตนเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรและรายได้ต่อหัวจะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรามีแหล่งน้ำอยู่จำนวนมาก พร้อมกับมอบนโยบายให้ปล่อยปลาตามแหล่งน้ำ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด​ เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนการที่ประชาชนมีรายได้เสริม

ส่วนศักยภาพทางการค้าในชายแดนศุลกากร พื้นที่นี้มีความเสียเปรียบจากหัวเมืองหลัก เนื่องจากความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นการค้าทางด้านตะวันออก​ ที่ติดกับประเทศลาวค่อนข้างดีมาก แต่ตนไม่อยากให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีนั้นหมดหวัง ประเทศเมียนมามีประชากรเท่าๆเรา 70 ล้านคน​ แต่ปัญหาภายในก็หนักหนาอยู่ เราเองเราชัดเจนวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ วางตัวเป็นการรักษาไว้​ซึ่งสิทธิมนุษยชน​ ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ เป็นหน้าที่ของความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องมีส่วนร่วม ซึ่งหากถามว่าทำไมตนถึงพูดตรงนี้ขึ้นมา​ ประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน​ เท่ากันกับเมียนมา หากทำตัวเป็นศูนย์กลางในการเจรจาให้เกิดความสงบสุขได้​ ชายแดนไทยกับเมียนมา จะ 2,000 กิโลเมตร ถ้าเขาไม่มีปัญหาเราก็ไม่มีปัญหา การค้าชายแดนชายแดนจะบูม​ เรามีท่าเรือเรามีสนามบินที่มีศักยภาพแล้ว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการท่องเที่ยวว่า แปลกใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีบอกว่า จังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับ 3 ที่มีท่องเที่ยวนักเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องของจำนวนคน และตนเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องจำนวนคนเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องใหญ่คือการจับจ่ายใช้สอยและระยะเวลาที่อยู่ ที่ผู้ว่าฯบอกว่า นักท่องเที่ยวต่อ 1 คนใช้เงินแค่ 1,000 กว่าบาท 1,000 กว่าบาทบางทีโรงแรมหนึ่งคืนยังไม่ได้เลย แสดงว่าเขามาเช้าเย็นกลับและมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และไม่ค้างที่เมืองกาญจน์ โรงแรมที่จังหวัดกาญจนบุรีมีต้อง 600 กว่าโรงแรม และโรงแรมดีๆก็มีเยอะ ฝากทีมงานให้ไปพูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มัวแต่ไปอังกฤษไป เบอร์ลิน อยากให้มาดูหน่อยอยากให้มาดูหน่อยมาดูจังหวัดกาญจนบุรี มาดูแลจังหวัดที่เดือดร้อนหน่อย แต่ไปจังหวัดใหญ่ๆ เชียงใหม่ ภูเก็ต จังหวัดแบบนี้อันซีน

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังถามถึง ททท.จังหวัดกาญจนบุรี ฝากให้ดูเรื่องการท่องเที่ยวเพราะท่านก็ทราบว่าจังหวัดนี้ศักยภาพสูงขนาดไหน อย่าตะแบงแค่ตัวเลขอย่างเดียว คนมาเยอะไม่ช่วย รายได้ รายจ่ายต่อหัว ระยะเวลาที่อยู่ ระยะเวลาท่องเที่ยว ต้องลงพื้นที่ให้หนัก มาพูดคุยกับผู้บริหารจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สส. เชื่อว่าทุกคนมีแรงบันดาลใจ เพราะที่บรรยายมา 30% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งนโยบายการท่องเที่ยวรัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญ