อธ.กรมการค้าภายใน สำรวจตลาดเยาวราช ร้านค้าร่วมมือตรึงราคารับเทศกาลกินเจ วัตถุดิบส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ผักสดถูกกว่าปีที่แล้ว ย้ำ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ห้ามค้ากำไรเกินควร มีโทษหนัก
วันนี้ (12 ต.ค.66) ที่ตลาดเยาวราช นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วยนายวิชัย ตรีรัตนสกุลเลิศ เลขาธิการคณะกรรมการชุมชนเยาวราช ลงพื้นที่ตรวจการจับจ่ายสินค้าในช่วงก่อนเทศกาลกินเจประจำปี 2566
โดย นายวัฒนศักย์ เผยภายหลังการเดินสำรวจว่า กรมการค้าภายในลงตรวจและติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน และป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยพบว่าพี่น้องประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยแล้ว ซึ่งบรรยากาศปีนี้น่าจะคึกคักกว่าทุกปี เพราะไม่มีโควิด 19 แล้ว ทำให้ประชาชนออกมาซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น และพ่อค้าแม่ค้าน่าจะมีแนวโน้มขายสินค้าได้มากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ราคาวัตถุดิบประกอบอาหารเจต่าง ๆ ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว และผู้ประกอบการร้านค้ายืนยันว่าจะพยายามไม่ปรับราคา และตรึงราคาเอาไว้ แม้วัตถุดิบบางตัวที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น โปรตีนเกษตรที่ผลิตมาจากถั่วเหลืองและจากแป้งราคาสูงขึ้น แต่บางรายการจะมีการปรับลดลงตามต้นทุนที่ลดลง
ส่วนราคาผักสดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ภาพรวมถือว่าราคาถูกกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก แต่บางรายการ ถ้าเทียบกับสัปดาห์ก่อน อาจมีการปรับขึ้นมาบ้าง เนื่องจากว่าสถานการณ์ฝนฟ้าที่ตกลงมา ทำให้ผักบางชนิด เช่น ผักบุ้งมีปัญหาเรื่องต้นล้ม ส่วนผักคะน้า อาจจะมีความอ่อนไหวในเรื่องใบและรา โดยผักคะน้าราคาทั่วประเทศเฉลี่ย 44 บาท/กิโลกรัม (กก.) ปีที่แล้ว 47-48 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 42 บาท/กก. ปีที่แล้วอยู่ที่ 50 บาท/กก. ผักบุ้งจีน 38 บาท/กก. ปีที่แล้ว 40 กว่าบาท/กก. ถือว่าลดลงมา ส่วนผักที่ลดลงมามาก เช่น ผักชี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 123 บาท/กก. พริกขี้หนูจินดา 72 บาท/กก. จากปีที่แล้ว 100 กว่าบาท/กก.
ทั้งนี้ ขอฝากผู้ประกอบการทุกท่าน ขอให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน กรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคา จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และกรณีที่ค้ากำไรเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนพี่น้องประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 สำหรับในต่างจังหวัด กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดตรวจเข้ม
