3 โจรบุกลักตัดสายไฟ-อลูมิเนียมอาคารกำลังก่อสร้าง เจ้าของมาเจอยิงปืนขู่ หนีไป 2 อีก 1 ต่อสู้ แต่สู่ไม่ได้เจ็บปางตาย

View icon 554
วันที่ 28 ส.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (28 ส.ค. 66) เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พิชิตชัย ธูปคม รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจาก นายดารากร ปาทาน อายุ 56 ปี เจ้าของเขียงเนื้อวัว ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่ามีคนเข้าไปขโมยตัดเอาอลูมีเนียมและสายไฟ ในอาคารพาณิชย์ 6 คูหา ที่ตนกำลังก่อสร้าง ที่บ้านน้ำคำน้อย ริมถนนหลวง สายสุวรรณภูมิ-เกษตรวิสัย และคนร้ายได้ต่อสู้กับตนแล้วหลบหนีไป โดยได้จอดรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะทิ้งเอาไว้ในที่เกิดเหตุ

หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไชยา นามสิมมา รอง ผกก.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ พบว่าด้านหลังอาคารดังกล่าว มีรถกระบะ สีขาว ทะเบียน บห 3271 อุบลราชธานี จอดติดหล่มอยู่ โดยสภาพรถ กระจกทุกบานและไฟหน้าถูกทุบแตก ได้รับความเสียหาย ล้อรถด้านขวามีรอยถูกกรีด และที่กระบะท้ายรถพบชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสายไฟฟ้าวางอยู่ จากการตรวจสอบรอบบริเวณใกล้ๆที่รถจอดอยู่ พบปืนพลาสติก มีดปลายแหลม ตกอยู่ในพื้นหญ้า พบหมวกแก๊ปและรอยเลือดด้วย นอกจากนั้นก็ยังพบแท่งเหล็กดิ้วซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการป้องกันตัวและเศษก้อนคอนกรีตอีกด้วย โดยนายดารากร ให้การเบื้องต้นว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของคนร้ายที่ใช้เป็นพาหนะขับเข้ามาหลังอาคารเพื่อขโมยสิ่งของของตนไป

นายดารากร เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. ตนขับรถยนต์ไปส่งเนื้อให้กับลูกค้าที่เขียงเนื้อตลาดสดเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ ขากลับมีสัญญาณแจ้งเตือนจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในอาคารเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ ตนจึงรีบเปิดดู ก็พบว่ามีแสงไฟรถยนต์เข้ามาจอดด้านหลังอาคาร จึงรีบขับรถยนต์ไปจอดด้านหน้าอาคาร แล้วเดินอ้อมไปดูด้านหลัง พบคนร้าย 3 คนกำลังเดินออกมาจากอาคารชั้นล่าง จึงตะโกนบอกให้หยุดแล้วหมอบลง แต่คนร้ายทั้งสามกลับเดินปรี่เข้ามาหาตนพร้อมอุปกรณ์ที่ถืออยู่ในมือ ตนจึงควักปืน ขนาด .38 ที่พกติดตัวมายิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ คนร้ายเห็นดังนั้นก็วิ่งฝ่าความมืดหนีไป แต่อีกคนวิ่งไปขึ้นรถยนต์ขับถอยออกมาเพื่อหลบหนี แต่โชคไม่ดีรถเกิดติดหล่มขับหนีไม่ได้ ตนจึงบอกให้คนขับรถลงมา แต่ไม่ยอมลง จึงใช้อุปกรณ์ก่อสร้างและก้อนคอนกรีตทุบกระจกรถ จนคนร้ายยอมออกมาจากที่นั่งคนขับ แล้วก็ต่อสู้ชกต่อยกับตน

นายดารากร บอกอีกว่า ตนใช้อุปกรณ์ที่หยิบฉวยได้ในที่เกิดเหตุเป็นอาวุธสู้กับคนร้าย ซึ่งมีรูปร่างเล็กกว่าตนมาก จนคนร้ายได้รับบาดเจ็บวิ่งหลบหนีไปได้ ทิ้งไว้เพียงอุปกรณ์ในการงัดแงะและไฟฉาย 1 ดวงเอาไว้ในที่เกิดเหตุ หลังจากคนร้ายทั้งหมดหลบหนีไป ตนเกิดความโมโห จึงเอาปืนที่พกมายิงระบายความแค้น ที่ประตูรถด้านซ้ายและกระจกด้านขวา จากนั้นก็เอามีดปลายแหลมของคนร้ายที่ตกอยู่ กรีตยางรถยนต์เพื่อไม่ให้คนร้ายย้อนมาขับหลบหนี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่บ้านน้ำคำน้อย ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ ว่ามีคนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บมาขอความช่วยเหลือให้นำส่งโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ เพราะเสียเลือดมาก มีอาการวิงเวียนศีรษะ ศีรษะแตกหลายแผล เลือดไหลอาบท่วมตัว โดยคนร้ายบอกชาวบ้านว่าถูกรุมทำร้ายที่หลังอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาว่า นายภัทรดนัย อายุ 30 ปี ชาว จ.ยโสธร

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายภัทรดนัย ให้การภาคเสธ บอกว่าตนขับรถมารับเพื่อน 2 คนที่รออยู่ในบริเวณดังกล่าว ชื่อนายบอม กับนายบอย ไม่ทราบชื่อจริง โดยนายบอมกับนายบอย บอกว่ามาธุระ แล้วแวะพักในอาคารดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การเบื้องต้น และจะสอบสวนติดตามนายบอมและนายบอยมาให้ปากคำต่อไป สำหรับอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว นายดารากร เจ้าของบอกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่มีคนร้ายเข้ามาลักขโมยสิ่งของไป