เลือกตั้งจบแล้ว แต่ลากตั้งยังไม่จบ มีดึงขาคนที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง “อดิศร” ยืนยันเพื่อไทยหนุน "พิธา" เป็นนายกฯ คนที่ 30 โดยไม่มีเงื่อนไข ลั่น รธน.ฉบับนี้ต้องแก้ไข ไม่มีประเทศไหน 2 สภาฯมานั่งประชุมเลือกนายกฯ
โหวตนายกฯ วันนี้ (13 ก.ค.66) เวลา 11.30 น. นายอดิศร เพียงเกษ สส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าการแข่งขันวันที่ 14 พ.ค.66 เป็นสนามที่กลั่นกรองพวกเราการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีพรรคไหนได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่พรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนมากกว่า คือ 151 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 141 ที่นั่ง เปรียบเสมือนไข่ไก่เบอร์ศูนย์และไข่เป็ด หรือข้าวต้มมัดที่จะมัดเพื่อไทยและก้าวไกลอยู่ด้วยกัน ประชาชนเป็นตอกที่มัด 2 พรรคอยู่ด้วยกัน ห้ามแยกจากกัน จึงมีการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรคซึ่งพรรคเพื่อไทยเคารพกติกาประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทย ภูมิใจที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น ณ วันนี้ ยังยืนยัน สส.มีมติเอกฉันท์ 100 % ยกมือสนับสนุนให้นายพิธา การเลือกตั้งจบไปแล้วแต่ไม่ใช่เลือกตั้งที่เรียกว่าลากตั้งยังไม่จบ จึงเป็นปัญหาที่ต้องมีคนดึงขาคนที่ได้คะแนนเสียงประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ประชาชนอยากมีนายกฯ นายกรัฐมนตรีที่เป็นมา 8 ปี ก็โบกมือลาไปแล้ว ประชาชนอยากเห็นคนที่ได้ 151 ที่นั่ง เป็นนายกฯ
“อยากให้ประชาชนรู้ว่าเพื่อไทยจริงใจเคารพกติกา ครั้งนี้ก้าวไกล เป็นส้มตำที่เผ็ดจี๊ดจ๋าใส่พริกมากกว่าเพื่อไทย แต่เรายังเป็นเพื่อนกัน ผมศราธานายพิธา เวลานี้ต้องเปิดโอกาสให้นายพิธา ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ คนที่ 30 โดยไม่มีเงื่อนไข เรื่องคุณวุฒิไม่ต้องพูดถึง อายุกำลังเหมาะ 40 ปีหน่อยๆ ไปไหนไม่เหนื่อย สมองก้าวหน้ากว่า 40 ปี ผมจะไม่พูดมากไปกว่านี้ รธน.ฉบับนี้ ต้องแก้ไข ไม่มีประเทศไหน ที่ 2 สภาฯ มานั่งประชุมเลือกนายกฯ”
นายอดิศร อภิปรายทิ้งท้ายด้วยกลอนสั้น
"ขอสัญญาจะเลือกพิธา เป็นนายก
ขอสมาชิกรัฐสภา ยกมือสนับสนุน
ประชาชนเขาเลือกมา นั้นเป็นทุน
พิธาจะทำงานแทนคุณ ประเทศเอย”
