สาวอ้างมากินอาหารเจอฝอยขัดหม้อ ขู่เอาเงินร้านอาหาร ถูกจับพิรุธได้

View icon 294
วันที่ 14 มิ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มิจฉาชีพเล่นมุกใหม่ สาวอ้างว่าเจอฝอยขัดหม้อในเมนูอาหารทาน กินเข้าไปแล้วอาเจียนเข้าโรงพยาบาล ข่มขู่ให้ทางร้านจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ทางร้านไหวตัวทัน

วันนี้ (14 มิ.ย.66 )  เพจเฟซบุ๊กชื่อ “บี่เฮียงโภชนา-พายัพ” ซึ่งเป็นของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่โพสต์เตือนภัยให้ระวังมิจฉาชีพ  โดยบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของทางร้านว่า มีผู้อ้างตัวว่าเป็นลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาแจ้งกับทางร้านว่า ต้องการให้ทางร้านรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากได้เข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน เมนูข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 แล้ว ปรากฏว่ามีเศษฝอยขัดหม้อปนอยู่ในอาหาร ทำให้กินเข้าไปติดคอ ไอออกมาเป็นเลือดจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เสียค่าใช้จ่ายไป 2,500 บาท ทางร้านจึงขอไลน์เพื่อติดต่อพูดคุยกันในรายละเอียด โดยทางร้านพร้อมที่จะรับผิดชอบ แต่ขอใบรับรับรองแพทย์จากทางผู้ที่อ้างตัวเป็นลูกค้า แต่ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่าไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์ย้อนหลังได้ อีกทั้งคนดังกล่าวอ้างครั้งแรกว่าเข้ามารับประทานอาหารเวลาประมาณ 09.00 น. แต่ร้านเปิด 10.00 น. ต่อมาจะเปลี่ยนมาเป็นเวลา 11.00 น. จึงรู้สึกผิดสังเกตและตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในร้านพบว่า ในวันเวลาตามที่คนที่อ้างตัวเป็นลูกค้าบอกว่าเข้ามารับประทานอาหาร มีลูกค้ามารับประทานอาหารจริง แต่ไม่ได้สั่งเมนูข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ พร้อมตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบพบว่าเป็นมิจฉาชีพที่ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับร้านอาหารหลายแห่งในหลายพื้นที่นับครั้งไม่ถ้วน และในโลกโซเชียลมีผู้โพสต์เตือนภัยเป็นจำนวนมาก ทำให้ทราบและมั่นใจว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงนำเรื่องราวมาโพสต์เตือนภัย ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ต่อเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้เนื้อหาตามโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “เตือนภัยเรื่องมิจฉาชีพ เนื่องจากเมื่อเช้าวันนี้ มีบุคคลท่านหนึ่ง โทรมาแจ้งกับทางร้านสาขาพายัพว่า “ได้มาทานที่ร้านเมื่อ 3 วันที่แล้ว (9 มิ.ย 66) โดยได้ทานเมนู ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ มีเศษฝอยขัดหม้อติดคอ รู้สึกไอจาม ติดคอตั้งแต่ออกจากร้าน ไอครั้งสองครั้งแรกมีเลือดปนออกมา และไอครั้งที่สามมีเศษฝอยขัดหม้อออกมา และพึ่งมีอาการเมื่อวานนี้”

ทางร้านจึงได้ถามกลับว่ามาช่วงเวลากี่โมงคะ? ทางบุลคลดังกล่าวได้ตอบกลับว่า “มาช่วงเวลา 9 โมงเช้าค่ะ” (แต่ทางร้านของเราเปิดให้บริการ 10 โมง ) บุคคลดังกล่าวเลยกลับคำว่ามาทาน 11 โมง ทางร้านจึงได้ขอไลน์ เพื่อเช็คว่าบุคคลดังกล่าวได้มาทานที่ร้านจริงหรือไม่ และได้วางสายไป ทางร้านได้ตรวจสอบจากรูปโพรไฟล์ไลน์เป็นลูกค้าที่มาทานที่ร้านจริงในวันนั้น แต่มีความรู้สึกแปลกใจที่บุลคลดังกล่าวที่แจ้งว่ามาทานเมนูหมูกรอบคั่วพริก แต่ในรูปทานอีกเมนู เมนูที่ไม่ใช่หมูกรอบคั่วพริกเกลือ ทางร้านจึงได้โทรไปสอบถามเพิ่มเติมว่า ได้ไปหาหมอ หรือ ตรวจเช็คหรือยัง ทางบุคคลนั้นได้แจ้งกลับว่า ตัวเองได้ไปแล้วที่โรงพยาบาลกรุงเทพ แต่แม่บ้านนำใบเสร็จทิ้งไปแล้ว และแจ้งทางร้านให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล จำนวนเงิน 2,500 บาท ทางร้านรู้สึกแปลกใจ จึงแจ้งให้ทางบุคคลดังกล่าวไปขอใบรับรองแพทย์หรือใบเสร็จย้อนหลัง ทางนั้นแจ้งว่าไม่สามารถขอย้อนหลังได้ แต่ทางร้านโทรถามทางโรงพยาบาลแล้วว่าสามารถขอได้ ทางนั้นจึงวางสายไป แจ้งว่าจะไปโรงบาลเพื่อขออีกครั้ง และหายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้อีก แต่ทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเช็คตรวจสอบข้อมูลเบอร์มือถือใน Facebook จึงได้พบว่า บุคคลดังกล่าวได้ใช้การกระทำแบบนี้กับหลายร้านแล้ว ทางร้านจึงมั่นใจว่าเป็น #มิจฉาชีพ เบอร์ 0658455XXX

โดยปกติถ้าเกิดปัญหากับลูกค้า ทางร้านจะรับผิดชอบทุกกรณี ไม่ว่าจะมาทานที่ร้าน หรือสั่งอาหารผ่านดิลิเวอรี ได้อาหารไม่ครบ หรือแกร๊ปทำออเดอร์ลูกค้าเสียหาย ทางร้านไม่เคยนิ่งนอนใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

วันนี้ทางร้านขอมาแชร์ให้ลูกค้าทุกท่านและผู้ประกอบการร้านอาหาร เพราะสามารถโกงแบบง่ายมากๆ แค่เอารูปลูกค้าท่านอื่นที่เช็คอินแล้วไปแอบอ้าง และ หาเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นร้านค้าร้านอาหาร ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจบนะคะ”

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปพบกับคุณ ภณ วงค์สุวรรณ์ เจ้าของร้านบี่เฮียงโภชนา ซึ่งมี 2 สาขา ที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยพายัพ และที่สาขาถนนสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี ตำบลสันผีเสื้อ ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่ามิจฉาชีพรายนี้ที่โทรมาเป็นเสียงของผู้หญิง ซึ่งอ้างตนเองว่าเป็นสาวทอม มาเป็นลูกค้าใช้บริการแล้วทานอาหารเป็นเมนูข้าวหมูกรอบคั่วพริกเหลือ แล้วปรากฏว่าเจอฝอยขัดหม้อในอาหารจนทำให้อาเจียนออกมาและเจ็บคอ โดยพบว่ามีฝอยขัดหม้อออกมาพร้อมกับเศษอาหาร หลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อทางด้านผ่านทางกล่องข้อความของทางเพจร้าน และพยายามเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวน 2,500 บาท จึงได้ขอเบอร์ติดต่อจากทางร้าน และมิจฉาชีพรายนี้โทรมา ซึ่งทางร้านยินดีชดใช้ และดูแลหากเป็นเรื่องจริง จึงได้ทวงถามเอกสารที่เป็นใบรับรองแพทย์หรือเอกสารที่เป็นใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงและพูดจาวกไปวนมา จนกระทั่งก่อนที่ตัดสินใจจะโอนเงินไปทางร้านก็ได้ตรวจสอบจนพบว่าวันที่อ้างนั้นมีลูกค้ามาทานอาหารจริง ถ่ายรูปและโพสต์จริง ซึ่งทางร้านก็ลองติดต่อเจ้าของโพสต์ก็ทราบว่ามาทานจริงแต่ไม่ได้มีอาการหรือพบฝอยขัดหม้ออย่างที่ถูกอ้าง จึงทราบว่าถูกมิจฉาชีพสวมรอยเป็นลูกค้า และนำภาพและข้อมูลรวมทั้งภาพโปรไฟล์ของลูกค้าตัวจริงไปปลอมตัวมาพูดคุยด้วย พอทราบว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพจึงลองนำเบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพรายนี้ไปลองเสิร์ทดูในโลกออนไลน์ ปรากฎก็ว่ามีผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันโพสต์แชร์เบอร์นี้โทรมาหลอกลวงในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย โดยเฉพาะเรื่องข้ออ้างว่าเจอฝอยขัดหม้อในอาหาร

จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์แชร์เป็นการเตือนภัยให้กับร้านค้าร้านอาหารที่อาจจะตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งโพสต์เพื่อชี้แจงให้กับลูกค้าได้เข้าใจ เนื่องจากเกรงว่าหากมีการโพสต์เรื่องนี้ลงไปในโลกออนไลน์ทางร้านอาจจะเสียหายได้เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเองต้องลงทุนลงแรง และตั้งใจทำอาหารดีๆให้ลูกค้า อาจจะต้องมาเสียชื่อเสียง และเสี่ยงถึงขั้นที่จะต้องปิดกิจการลงเนื่องจากปัจจุบันคนเล่นโซเชียลนั้นไปเร็วมากในเรื่องราวที่แชร์กัน หลายคนอาจจะแชร์ต่อโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือหลายคนเชื่อทันทีที่ได้เป็นได้อ่าน ซึ่งไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ประกอบการเลยที่จะได้รับผลกระทบตามมา จึงอยากวอนว่าอย่าโพสต์เล่น หรือแชร์ เรื่องที่ให้ร้ายร้านค้าร้านอาหารเลยเพราะอาจจะทำให้เสียหายถึงขั้นต้องปิดกิจการไปชื่อเสียงที่สร้างมาจากความตั้งใจอาจจะเสียไปเพียงเพราะเรื่องไม่จริงที่แชร์กันในโลกออนไลน์

ส่วนเคสนี้ตนเองไม่ได้เข้าแจ้งความเพราะยังไม่ได้โอนเงินไปให้แต่อยากให้รับรู้เป็นการแจ้งเตือนภัยจึงได้โพสต์ไว้ให้หลายๆ คนได้ทราบ ไม่ให้มิจฉาชีพรายนี้ได้ไปหลอกลวงใครได้อีก